ตับเป็นอาหารที่มีประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็น ตับหมู ตับไก่ หรือตับห่าน วันนี้ผมมีเทคนิคเล็กๆน้อยๆ ในการกินตับมาฝากครับ
การเลือกซื้อตับ(หมู)
- ดูตับที่มีเนื้อละเอียด ไม่มีรูพรุน
- เนื้อขึ้นเงา และสีอ่อนๆ
- ไม่ควรเลือกซื้อตับหมูที่เนื้อออกแดงเข้มจัด (ชาวบ้านเรียก ตับเลือด) เพราะจะขมมาก ปรุงอย่างไรก็เหมือนไม่สุก เหมือนมีเลือดซึมออกมาตลอด
การเก็บรักษา
- ไม่ควรเก็บไว้นานเกินกว่า 24 ชั่วโมง
- จริงๆ แล้วควรนำมาปรุงอาหารในวันที่ซื้อมาเลยครับถึงจะอร่อย
เทคนิคการเตรียมตับ
- ล้างให้สะอาด
- ลอกพังผืดบาง ๆ ที่คลุมตับอยู่ออกให้หมด
- แช่ในน้ำนมสดสักพัก จะทำให้เนื้อตับนุ่มขึ้น และไม่เหม็นคาว
ผลจากการกินตับ
ตับนำไปประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู ไม่ว่าจะทอดกระเทียม ตับหวาน หรือจะเอามาผัดกับดอกกุยช่าย ตับไก่ปิ้ง ฯลฯ ซึงการกินตับมีทั้ง คุณ และ โทษ ดังนี้ครับประโยชน์
- ตับมี ธาตุเหล็ก ที่ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง ส่งผลให้ร่างกายสามารถนำออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆ ได้ดี
- มี วิตามิน A ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อในร่างกาย และ การมองเห็นในที่มืด
- มี วิตามิน B2 ที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน และทำให้กระบวนการเผาผลาญอาหารพวกคาร์โบไฮเดรต ไขมัน และโปรตีนเป็นไปอย่างราบรื่น
- มี วิตามิน B3 ที่ช่วยในเรื่องของระบบหมุนเวียนเลือด การเจริญเติบโตของร่างกาย
- มี วิตามิน B5 ทำให้ร่างกายนำคาร์โบไฮเดรตและโปรตีนมาใช้ประโยชน์ได้สูงสุด
- มี วิตามิน B6 ช่วยในการทำงานของระบบประสาท
- มี วิตามิน B12 ที่ดูแลความสมบูรณ์ของระบบประสาท และสมอง รวมทั้งการสร้างเลือด
โทษ
- ตับ มี คอเลสเตอรอล ในปริมาณที่ สูงมาก ถ้ากินมากๆ หรือ บ่อยๆ ก็จะส่งผลเสียทำให้หลอดเลือดเกิดการแข็งตัว และเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจได้
- คนที่เป็น โรคเก๊าท์ ควรหลีกเลี่ยงการกินตับ เนื่องจากเป็นเครื่องในที่มีสาร พิวรีนสูง ทำให้อาการกำเริบได้
ปิดท้าย
- จริงๆ แล้วตับเป็นแหล่งของสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย (มากขนาดตอนเด็กๆ เวลาสอบสุขศึกษาว่าวิตามินนี้พบในอาหารใด ถ้าไม่รู้ก็เดา นม ไข่ ตับ ไว้ก่อนครับ)
- แต่อาหารใดก็ตาม ต่อให้มีประโยชน์แค่ไหน แต่ถ้าตะบี้ตะบันกินมากๆ กินซ้ำๆ ก็มีโทษได้แน่นอน ตับก็เช่นกันครับ เพราะฉะนั้น เราควรกินอาหารให้หลากหลาย จะได้ประโยชน์มากกว่าโทษครับ
ขอบคุณค่ะ
ตอบลบขอบคุณมากคะ
ตอบลบ