พุทรา จัดเป็นภัยคุกคามของผมมาตั้งแต่เด็ก ที่โดนออกไปเขียนคำนี้บนกระดานดำ เพื่อนหัวเราะกันทั้งห้อง อายแทบแทรกแผ่นดิน โตมาก็ยังเคืองๆ อยู่บ้าง เลยจับเคี้ยวทุกครั้งที่มีโอกาส จริงๆแล้ว พุทรา ไม่ว่าพันธุ์ไหนก็มีประโยชน์น่าคบหาทีเดียวเชียวครับ
พุทราที่มีขายในบ้านเรา
- ในเมืองไทยมีพุทราทั้ง พันธุ์พื้นเมือง ที่ปลูกกันมานาน พันธุ์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ และ ที่ปรับปรุงพันธุ์ขึ้นมา
- พันธุ์พื้นเมือง ที่ปลูกกันมานาน จะมีผลขนาดเล็กถึงปานกลาง เนื้อละเอียด กลิ่นรสเข้มข้น ได้แก่ พันธุ์เจดีย์ สามรส สงวนทอง
- พันธุ์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ และ ปรับปรุงพันธุ์ จะมีผลใหญ่ เนื้อแน่นและหนา กลิ่นรสอ่อนกว่า เช่น พันธุ์แอปเปิล นมสด น้ำผึ้ง
- พุทราอีกชนิดที่พบบ่อยคือ พุทราจีน ผลจะมีขนาดเล็ก ผลสดมีเปลือกสีน้ำตาลแดงเนื้อในสีขาว ค่อนข้างซุย รสหวาน ซึ่งเรามักจะเห็นพุทราจีนในแบบอบแห้ง
- ตามความเชื่อของไทย นิยมปลูกพุทราไว้ทางทิศตะวันตก(ประจิม) โดยปลูกคู่กับมะยม เข้าใจว่า คงเป็นความเชื่อว่า ผู้คนจะได้นิยมไม่สร่างซา แต่ขอเตือนไว้ก่อนนะครับ ว่า ดอกพุทรามีกลิ่นเหม็นมากๆ ผมว่ากลิ่นคล้ายอุจจาระเลยทีเดียว
ประโยชน์ของพุทรา
- ผลพุทรา ประกอบไปด้วย วิตามินC เป็นจำนวนมากถึง 44 มิลลิกรัม/เนื้อพุทรา 100 กรัม
- วิตามินC มีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและต้านอนุมูลอิสระ
- พุทราพันธุ์พื้นเมือง และ พันธุ์แอปเปิล จะมีวิตามินซีสูงกว่าพันธุ์อื่นๆ
- ถ้าอยากได้ประโยชน์จากวิตามินC ควรกินพุทราสดนะครับ ถ้าเอามาเชื่อมโดยผ่านความร้อน วิตามินC จะสูญเสียไปหมดครับ
- พุทราประกอบไปด้วย เส้นใยอาหาร ช่วยให้รู้สึกอิ่ม และช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น เหมาะกับคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
- พบว่า ผู้ที่กินพุทราเป็นประจำ จะมีความเสี่ยงต่ออาการผนังเส้นเลือดแข็งตัวลดลง
- ในตำรับยาแผนโบราณ ผลพุทราต้มกับน้ำกินเป็นยาบรรเทาอาการแพ้ต่างๆได้ หรือเอาผลมาอบแห้ง แล้วชงน้ำดื่มแก้ไอได้ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น