ฟักทอง เป็นผักก็ได้ เป็นผลไม้ก็ดี และด้วยเนื้อสีเหลืองที่แสนอร่อย ทำอาหารก็ง่ายทั้งคาว และหวาน ซึ่งนอกจากความอร่อยแล้วฟักทองยังแฝงคุณค่าที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเรามากๆ ด้วยครับ
ฟักทอง
- มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกา และแพร่กระจายไปทั่วโลก
- เป็นพืชมีเถาที่ปลูกได้ทั่วไปทั้งในเขตร้อนและเขตหนาว
- ฟักทองแบ่งออกเป็นสองตระกูลใหญ่ๆ คือ ฟักทองอเมริกัน (Pumpkin) มีผลใหญ่ เนื้อยุ่ย และ สควอช (Squash) ซึ่งจะมีเปลือกแข็ง เนื้อแน่น ได้แก่ ฟักทองไทย และ ฟักทองญี่ปุ่น
ประโยชน์ 5 ประการจากการกินฟักทอง
1. ช่วยเรื่องสายตา- เนื้อสีเหลืองส้มของฟักทองอุดมไปด้วย เบต้าแคโรทีน ซึ่งจะเปลี่ยนไปเป็น วิตามินA ซึ่งมีความสำคัญในกระบวนการมองเห็นของคนเราเป็นอย่างมาก
- ฟักทองนึ่ง 1 ถ้วย ให้ วิตามินA ถึง 200% ที่ร่างกายต้องการต่อวัน
- ฟักทองมี Lutein และ Zeaxanthin ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคต้อกระจก (Cataracts) และ โรคจอประสาทตาเสื่อม (Macular Degeneration)ได้
- ส่วนมากเราจะนึกไม่ถึงว่าฟักทองช่วยลดน้ำหนักได้
- ฟักทองมี เส้นใยอาหาร (0.5 กรัม/100 กรัม) ทำให้ย่อยช้า อิ่มได้นาน(ทำให้เราไม่ขวนขวายหาอะไรกินเข้าไปเพิ่มแคลอรี่อีก)
- ฟักทองเองให้ แคลอรี่ไม่เยอะ เพราะมีน้ำอยู่ด้วย ฟักทอง 1 ขีด (100 กรัม) ให้แตลอรี่ประมาณ ไม่ถึง 50 กิโลแคลอรี่ ครับ
- วิตามินA ปริมาณสูงในฟักทอง ช่วยร่างกายในการต่อสู้กับไวรัส และเชื้อโรคต่างๆ
- ถ้าใช้ความร้อนไม่สูงนัก และใช้เวลาประกอบอาหารไม่นาน วิตามินC ในฟักทองก้จะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกายด้วยครับ
- มีงานวิจัยที่สนับสนุนว่า คนที่กิน อาหารที่มีเบต้าแคโรทีนสูง จะมีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งบางชนิดลดลง เช่น มะเร็งต่อมลูกหมาก และ มะเร็งปอด
- อันนี้เป็นส่วนของการกิน เมล็ดฟักทองอบ ซึ่งนอกจากจะเคี้ยวเพลิน แล้วยังได้ กรดอะมิโน ชื่อ ทริปโตฟาน (Trypyophan)
- ทริปโตฟาน มีส่วนสำคัญในการสร้างสาร ซีโรโตนิน (Serotonin) ซึ่งมีผลต่ออารมณ์ ช่วยให้อารมณ์ดีครับ
ปิดท้าย
- บ้านเราหาฟักทองกินง่าย มีทั้งในอาหารคาว หวาน
- อย่าพลาดประโยชน์ดีๆ จากฟักทองนะครับ โดยเฉพาะคนที่ "มองจอกันวันละนานๆ" ยิ่งเหมาะเลยครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น