ปัจจุบันคนไทยเราคุ้นเคยกับมะเขือม่วงกันมากแล้ว เอามาทำอาหารต่างๆ กันมากขึ้น จริงๆแล้วมะเขือม่วงปลูกไม่ยากเลย ใครพอมีพื้นที่อยู่บ้างก็น่าปลูกไว้ชื่นชม+ชิม ผลงานของเราเองนะครับ
มะเขือม่วง (Eggplant)
- มีถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดีย อยู่ในตระกูลเดียวกับพริก มะเขือเทศ มันฝรั่ง และยาสูบ
- ในเขตร้อนจะเป็นพืชข้ามปี แต่ในเขตหนาวมักปลูกเป็นพืชฤดูเดียว
- เป็นไม้พุ่ม สูงประมาณ 1-1.5 เมตร ลำต้นมีขนนุ่มปกคลุมทั่วไป และมีหนามเล็กๆ
- ให้ผลได้ตลอดปี
- ผลมีทรงกลมรียาว ทรงหยดน้ำ หรือ เป็นรูปไข่ ผิวเรียบเป็นสีม่วง
- ขนาดของผลขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ (ประมาณ 4-30 เซนติเมตร)
- ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด
- อุณหภูมิที่เหมาะสม คือ 22-30 องศาเซลเซียส ถ้าต่ำกว่า 17 องศาเซลเซียส หรือสูงกว่า 35 องศาเซลเซียส การเจริญเติบโตจะชะงัก
- มะเขือม่วงต้องการดินร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี (ถ้ามีน้ำขังรากจะเน่าได้ง่าย) ชอบแสงแดดเต็มวัน
- ไม่ควรปลูกมะเขือม่วงซ้ำกับพื้นที่ที่เคยปลูกมะเขือเทศ และพริก
ประโยชน์
1. มี วิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายชนิด
โดยคุณค่าทางโภชนาการของมะเขือม่วง ต่อ 100 กรัม จะประกอบไปด้วย
- พลังงาน 24 กิโลแคลอรี่
- โปรตีน 1 กรัม,ไขมัน 0.2 กรัม,คาร์โบไฮเดรต 5.7 กรัม
- เส้นใยอาหาร 0.8 กรัม
- วิตามินA 130 หน่วยสากล, วิตามินB1 10 มิลลิกรัม, วิตามินB2 0.05 มิลลิกรัม, วิตามินB3 0.6 มิลลิกรัม
- ธาตุเหล็ก 0.6 มิลลิกรัม,แคลเซียม 30 มิลลิกรัม,ฟอสฟอรัส 27 มิลลิกรัม,โซเดียม 4 มิลลิกรัม และ โปแตสเซียม 223 มิลลิกรัม
เมนูมะเขือม่วง(แบบง่ายๆ)
สลัดมะเขือม่วงวัตถุดิบ
- มะเขือม่วงหั่นแว่น 1 ลูก
- มะเขือเทศหั่นแว่น 2 ลูก
- เชดดาร์ชีสหั่นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กๆ 1 แผ่น
- น้ำมันมะกอก (หรือน้ำมันพืชอะไรก็ได้) 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ
น้ำสลัด
- หอมสับละเอียด 2 ลูก
- น้ำมะนาว 2 ช้อนชา
- เกลือ 1- 2 ช้อนชา
- น้ำมันมะกอก 1 ช้อนชา
วิธีทำ
- ผสมส่วนผสมน้ำสลัดทั้งหมด คนให้เข้ากัน พักไว้
- คลุกมะเขือม่วงกับน้ำมันและเกลือพอเข้ากัน
- ย่างมะเขือม่วงในกระทะ จนสุกทั้งสองด้าน ตักใส่จาน พักไว้
- ย่างมะเขือเทศในกระทะ จนสุกทั้งสองด้าน ตักใส่จาน พักไว้
- เรียงมะเขือม่วงลงบนจาน วางมะเขือเทศลงไป ตามด้วยเชดดาร์ชีส แล้วตักน้ำสลัดราด พร้อมเสิร์ฟ
ปิดท้าย
- มะเขือม่วง มีเนื้อเยอะ เอามาทำอาหารได้หลากหลาย เช่น ผัดกับหมู เผาหรือหั่นเป็นแว่นชุบไข่ทอด กินกับน้ำพริกกะปิ เอาไปย่างแล้วยำ ผัดกับเต้าเจี้ยวใบโหระพา อบชีส ฯลฯ
- ปลูกไว้ได้ใช้ประโยชน์ ทั้งกินเป็นอาหาร แถมช่วยต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ร่างกายเสื่อมช้าลงครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น