รสเปรี้ยวที่เป็น Signature ของผลิตภัณฑ์จากมะขามทั้งหลาย รับรองได้ว่า มะขามเปียก จี๊ดสุดแล้วครับ แถมยังหาซื้อง่าย มีขายทั่วไปด้วย มาดูกันครับว่ามะขามเปียกมีประโยชน์อย่างไรบ้าง
มะขามเปียก (Ripe Tamarind)
เป็นสมุนไพรใกล้ตัวที่ทุกคนเข้าถึงได้ง่ายๆ แถมยังออกฤทธิ์ให้เห็นอย่างชัดเจน และรวดเร็วด้วย
ใช้กิน
1. ใช้เป็น ยาระบาย แก้ท้องผูก
เนื่องจากในเนื้อมะขามมีสารประเภท แอนทราควิโนน (Antraquinone) ซึ่ง ใช้เป็นยาระบายได้ครับ
- หยิบมะขามเปียกมาจิ้มเกลือกิน แล้วดื่มน้ำอุ่นตามเยอะๆ
- ทำ น้ำมะขาม ดื่ม โดยมี วิธีทำ ดังนี้
- เอามะขามเปียกไปต้มกับน้ำให้เดือด
- กรองเอากากออก (แต่อย่าเพิ่งทิ้งกาก เพราะยังใช้ประโยชน์ได้อีกครับ)
- เติมน้ำตาลและเกลือเล็กน้อย ชิมรสชาติตามความพอใจ
2. แก้คลื่นไส้
- จิบน้ำมะขาม บรรเทาอาการคลื่นไส้ อยากอาเจียนได้
3. งานวิจัยทั้งในสัตว์ทดลอง และมนุษย์
- พบว่า น้ำมะขาม ช่วยลดไขมันในเลือดชนิดเลว(LDL) ลดน้ำตาล ลดความดันโลหิตได้
- โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่า กว่าจะได้ฤทธิ์เหล่านั้น อาจต้องมานั่งทนถ่ายท้อง เสาะท้อง อยู่ตลอดวัน ไม่น่าจะมีความสุขนักครับ
ใช้กับผิวพรรณ
1. ช่วยให้ผิวขาวขึ้น
มะขามมีกรดผลไม้ ที่เป็น AHA (Alpha Hydroxy Acid) โดยธรรมชาติที่จะ ช่วยทำความสะอาดและผลัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพให้หลุดออกไปได้ วิธีทำมีดังนี้ครับ
- สูตร 1 กากของมะขามเปียกที่กรองออก(ตอนทำน้ำมะขาม) เมื่อนำมาถูที่บริเวณแขนหรือขาทิ้งไว้สักครู่จากนั้นก็ล้างออก จะทำให้ผิวพรรณบริเวณแขนขาสวยและเนียนขึ้น
- สูตร 2 ใช้มะขามเปียกหนึ่งกำมือ แช่ในนมสด(ให้เส้นใยอ่อนนุ่มลง) อาจใส่น้ำผึ้งหรือขมิ้นเพิ่มลงไป เพื่อช่วยให้ผิวหนังชุ่มชื้นยิ่งขึ้น แล้วนำมาขัดผิวเบา ๆ
- ทั้งสองสูตร ควรดึงเส้นใยแข็งที่มีอยู่ออกก่อน เพราะจะระคายเคืองผิวหนัง หรืออาจเกิดบาดแผลได้
2. ใช้แทนสบู่แก้ผิวแห้งแตกหน้าหนาว
- เอามะขามเปียกมาใช้แทนสบู่เวลาอาบน้ำ โดยถูให้ทั่วตัว(รวมทั้งใบหน้า) ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที แล้วล้างออก
ปิดท้าย
- ท้องไส้แต่ละคนไม่เหมือนกัน ลองสังเกตุและปรับปริมาณการกินที่เหมาะกับตัวเราดูครับ
- ความสะอาดของมะขามเปียก ก็เป็นสิ่งสำคัญ ถ้าไม่ได้ทำเอง เวลาเลือกซื้อ ดูที่ไม่สกปรก ไม่มีเชื้อรา และ ก่อนใช้เอาเข้าเตาไมโครเวฟ สักหน่อยก็ดีครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น