วันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2559

เลือดหมูต้ม กับ เลือดหมูดิบ

คนไทยเรานิยมกินเลือดหมูกันไม่ใช่น้อย เลยต้องนำเรื่องนี้มานำเสนอกันครับ จะได้กินกันอย่างปลอดภัย สบายใจ

เลือดหมูต้ม

  • เลือดหมูต้มมีคุณค่าทางโภชนาการสูงพอสมควรครับ
  • เลือดหมูต้ม 100 กรัม(1 ขีด) ให้
    • โปรตีน 6.9 %
    • ไขมัน 0.4 %
    • แคลเซียม 11 มิลลิกรัม
    • ฟอสฟอรัส 12 มิลลิกรัม
    • ธาตุเหล็ก 12 มิลลิกรัม
  • เรามักกินเลือดหมูต้ม ในอาหารที่ปรุงร้อน และมักใส่ผัก เช่น จิงจูฉ่าย ใบตำลึง ฯลฯ ทำให้ได้รับประโยชน์จากผักต่างๆ ด้วย

เลือดหมูดิบ หรือ สุกๆดิบๆ

  • เช่น การกินลาบ หรือ หลู้ ที่ปรุงจากเนื้อหมูดิบ หรือ เลือดหมูดิบ
  • หมูจะมีเชื้อ "สเตรปโตคอคคัส ซูอิส" ในทางเดินหายใจตั้งแต่แรกเกิด จนกลายเป็นเชื้อโรคประจำถิ่น แต่เมื่อหมูอยู่ในภาวะเครียดจากความแออัด ฝนตกหนัก น้ำท่วม ฯลฯ ภูมิคุ้มกันของหมูจะลดลง เชื้อนี้จะเข้าสู่กระแสเลือดทำให้หมูป่วย หรือตายได้
  • เมื่อคนเรากินเนื้อหมู หรือ เลือดหมูที่ไม่สุก เราจะติดเชื้อสเตรปโตคอคคัส ซูอิส จากหมู ทำให้เกิดอาการ เยื่อหุ้มสมองอักเสบเฉียบพลัน มีไข้ ปวดศีรษะ คอแข็ง 
  • เคราะห์หามยามร้าย เชื้อจะแพร่เข้าไปในกระแสเลือด อาจมีอาการรุนแรงถึงกับเสียชีวิต ถ้ารอดชีวิตได้ก็มักจะหูหนวกทั้ง 2 ข้าง หรือเป็นอัมพาตครึ่งซีกได้ครับ
  • ข่าวดี คือ เชื้อสเตรปโตคอคคัส ซูอิส ถูกทำลายสิ้นด้วยความร้อนจากการปรุงอาหาร ครับ

ส่งท้าย

  • เทียบดูแล้ว ใครยังเลือกที่จะเสี่ยงกิน "เลือดหมูดิบ" ก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วครับ

หมายเหตุ

  • ทุกเรื่องราวของ vcanfit ท่านสามารถแขร์ได้เลย ไม่มีหวง จะได้เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพสำหรับผู้คนในวงกว้าง ครับ
  • สงสัยเรื่องอาหาร/สุขภาพ อยากได้คำตอบแบบสั้นๆ ง่ายๆ ที่อิงหลักวิชาการ ลองเข้า Google พิมพ์ vcanfit  เว้นวรรค แล้วพิมพ์ คำที่ต้องการหา (เป็นภาษาไทยหรืออังกฤษก็ได้) จากนั้นกด ENTER ครับ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น