วันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ถั่วงอก


รากพืชที่คนเราเอามากินกันมากที่สุด เห็นทีจะเป็น "ถั่วงอก" นี่แหละครับ

ถั่วงอก

  • คนจีนเพาะถั่วงอกมาตั้งแต่ 2390 ปีก่อนคริสตกาลแล้ว โดยใช้เป็นแหล่งของวิตามินซีในช่วงฤดูหนาวที่หาผัก และผลไม้สดกินยาก หรือเพาะกินในเรือสินค้าที่ไปรอนแรมอยู่กลางมหาสมุทรนานๆ            
  • ถั่วงอกที่นิยมกินกัน ได้แก่
    • ถั่วเขียวงอก จาก เมล็ดถั่วเขียวเปลือกเขียว และเปลือกดำ
    • ถั่วงอกหัวโต จาก เมล็ดถั่วเหลือง
    • โต้วเหมียว จาก เมล็ดถั่วลันเตา
    • ไควาเระ จาก เมล็ดหัวไชเท้า
    • อัลฟัลฟ่า
  • ไทยเรามีคำสุภาพที่ใช้แทนคำว่า "ถั่วงอก" คือ "ถั่วเพาะ" ครับ

ประโยชน์

  • ถั่วงอกให้พลังงานต่ำ (ให้พลังงานเพียง 36 กิโลแคลอรี/100 กรัม) จึง เหมาะกับคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนักตัว
  • ให้ ใยอาหารสูง ซึ่งดีต่อระบบขับถ่ายของเรา
  • เป็นแหล่งสารอาหารและวิตามินที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีโปรตีน วิตามิน เกลือแร่ ซึ่งอยู่ในรูปที่ร่างกายสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้เร็ว
  • มี วิตามินบี 12 ซึ่งจำเป็นสำหรับการเติบโต และซ่อมแซมเซลล์ในร่างกาย
  • มี ธาตุเหล็ก ที่ร่างกายคนเราเอาไปใช้งานได้ง่ายกว่าธาตุเหล็กจากสัตว์
  • มี วิตามินซี มากกว่าในรูปที่เป็นเมล็ด 3-5 เท่า
  • มี เลซิติน (Lecithin) ช่วยบำรุงประสาท และการทำงานของสมอง
  • มีสารต้านความแก่ ที่เรียกว่า ออซินอน (Auxinon) ช่วยทำให้ไม่แก่เร็ว

โทษ

  1. ถั่วงอกดิบมี ไฟเตต (Phytate) สูง ซึ่งไฟเตตมีฤทธิ์ยับยั้งการดูดซึมของ แคลเซียม เหล็ก สังกะสี และฟอสฟอรัส เอาไว้ หากกินมาก ๆ ร่างกายเราจะขาดแร่ธาตุเหล่านี้ วิธีแก้ ก็คือ อย่ากินถัั่วงอกดิบเยอะ หรือให้ดีก็นำไปปรุงให้ผ่านความร้อนก่อน ครับ
  2. อาจมี "สารฟอกขาว" ซึ่งเป็นสารเคมีในกลุ่มซัลไฟต์ เช่น โซเดียมซัลไฟต์ ที่บางคนเอามาผสมน้ำแช่ถั่วงอกเพื่อให้ถั่วงอกขาว น่ากิน จริงๆ แล้วอันนี้สามารถนำมาใช้ได้ในปริมาณที่กฏหมายกำหนด(แต่เลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยงครับ) ที่อันตรายมากๆ คือถ้าใช้ โซเดียม ไฮโดรซัลไฟต์ ซึ่งเป็นสารฟอกขาวอย่างแรงที่ไม่อนุญาตให้ใช้ในอาหาร เจ้าสารนี้จะทำให้ทำให้ ท้องเสีย อาเจียน หายใจขัด อาจถึงแก่ชีวิตได้ วิธีแก้ คือ เลือกซื้อ หรือกินถั่วงอก ที่ไม่ขาวมากจนเกินปกติ ครับ
  3. ถ้าการผลิตและการวางจำหน่ายไม่สะอาด อาจเกิดการปนเปื้อนของจุลินทรีย์ ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ วิธีแก้ คือ ล้างทำความสะอาด 2-3 ครั้ง และ เก็บในตู้เย็น(อุณหภูมิต่ำกว่า 4 องศาเซลเซียส) ครับ

หมายเหตุ

  • ทุกเรื่องราวของ vcanfit ท่านสามารถแขร์ได้เลย ไม่มีหวง จะได้เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพสำหรับผู้คนในวงกว้าง ครับ
  • สงสัยเรื่องอาหาร/สุขภาพ อยากได้คำตอบแบบสั้นๆ ง่ายๆ ที่อิงหลักวิชาการ ลองเข้า Google พิมพ์ vcanfit  เว้นวรรค แล้วพิมพ์ คำที่ต้องการหา (เป็นภาษาไทยหรืออังกฤษก็ได้) จากนั้นกด ENTER ครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น