อาโวกาโด
ถ้าพูดภึงผลไม้ที่คนไทยส่วนใหญ่ไม่ค่อยนึกถึงนัก น่าจะมี "อาโวกาโด" รวมอยู่ด้วยแน่ๆ เลยครับ
อาโวกาโด : Avocado
- มีถิ่นกำเนิดในแถบเมริกา เม็กซิโก กัวเตมาลา
และหมู่เกาะเวสต์อินดิส
- เป็นไม้ยืนต้น ต้นโตเต็มที่สูงถึง 18
เมตร เปลือกต้นมีสีน้ำตาลอ่อน ผิวขรุขระ
- ผลมีทรงกลมรี(ทรงลูกแพร์)
มีทั้งพันธุ์เปลือกหนา และเปลือกบาง
- เนื้อผลมีสีเหลืองอ่อนจนถึงเหลืองเข้ม เนื้อละเอียด มีรสมัน
- มิชชันนารีชาวอเมริกา ได้นำมาปลูกในเมืองไทยเป็นครั้งแรกที่จังหวัดน่าน ต่อมาจึงมีหน่วยงานต่างๆ ทดลองปลูกอาโวกาโด และเผยแพร่ออกไป
ประโยชน์
- ผลอาโวกาโด นำมาใช้ประกอบอาหารในแถบอเมริกาและยุโรปเป็นส่วนมาก
แล้วจึงแพร่หลายไปในเมนูอาหารชาติต่างๆ
- เนื้อผลตักกินเลย หรือนำมาใส่ในสลัด ซูชิ จิ้มน้ำพริก กินคู่กับไอศกรีม ใส่ลอดช่อง ทาขนมปังแทนเนย ปั่นกับนมใส่ช็อกโกแลตแบบอินโดนีเซีย ปั่นเป็นน้ำปั่นเพื่อสุขภาพ ฯลฯ
- เนื้อของอะโวคาโด จะมีไขมันอยู่ถึง 14.66%
ซึ่งมากกว่าผลไม้ชนิดอื่นๆ โดยจะเป็นไขมันชนิดไม่อิ่มตัวที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
ช่วยเพิ่มระดับ ไขมันตัวดี (HDL) และ
ช่วยลดไขมันที่อาจส่งผลเสียกับร่างกาย(LDL)
- มีวิตามินเอ และ เบต้าเคโรทีน ช่วยบำรุงสายตา
- มีวิตามินซี ช่วยป้องกันโรคหวัด
และโรคเลือดออกตามไรฟัน
- มีโฟเลตสูง
ซึ่งโฟเลตเป็นสารอาหารที่สำคัญสำหรับสตรีมีครรภ์
เนื่องจากโฟเลตจำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตและการสร้างเนื้อเยื่อของทารก
- มีวิตามินอี และสารต้านอนุมูลอิสระ
ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้เซลล์ถูกทำลายจากมลพิษต่าง
วิธีเลือกซื้อ
- เลือกที่นุ่มๆหน่อย ถ้าแข็งจะยังดิบ ยังกินไม่ได้
- ถ้าได้ลูกที่ยังแข็งๆ มา ให้นำมาบ่ม โดยห่อด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ (ห่อหลายๆลูกรวมกัน) โดยเอากล้วยหอมสุกใส่เข้าไปในห่อด้วย เพื่อเร่งการสุกของอาโวกาโด บ่มไว้ 2-3 วัน
- ดูที่สีผิวของผลไม่ได้นะครับ
เพราะมีหลายสายพันธุ์ สีผิวเข้มกว่า ไม่ได้แปลว่าสุกกว่า
หมายเหตุ
- ทุกเรื่องราวของ vcanfit ท่านสามารถแขร์ได้เลย
ไม่มีหวง จะได้เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพสำหรับผู้คนในวงกว้าง ครับ
- สงสัยเรื่องอาหาร/สุขภาพ อยากได้คำตอบแบบสั้นๆ
ง่ายๆ ที่อิงหลักวิชาการ ลองเข้า Google พิมพ์ vcanfit เว้นวรรค แล้วพิมพ์ คำที่ต้องการหา
(เป็นภาษาไทยหรืออังกฤษก็ได้) จากนั้นกด ENTER ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น