ไม่คิดบวก..ไม่คิดลบ..
ในสภาพความเป็นจริงแห่งโลกแล้ว คิดบวกอย่างเดียว หรือ คิดลบอย่างเดียว ก็อาจนำภัยมาสู่เราได้ทั้งนั้นครับ
1. คิดบวกตลอด(โลกสวยด้วยใจเรา)
- ดีเหลือเกิน(ในสังคมอุดมคติ ที่ไม่มีการแก่งแย่ง ชิงดีชิงเด่น เอารัดเอาเปรียบกัน)
- สบายใจ
- มีกำลังใจในการก้าวต่อไปยังจุดหมายที่ตั้งไว้
- คนรอบข้างมีความสุข
- อาจโดนเอาเปรียบเพราะไม่หืออือกับใคร ใครอยากทำอะไร(เรา)ก็เชิญ ไม่เป็นไร
- โดนเอาเปรียบ(แน่ๆ)
- อาจมีอันตรายเพราะไว้ใจคนอื่นมากเกินไป โดยตกเป็นเหยื่อทั้งเรื่องทรัพสิน และความรุนแรงต่างๆ ได้
2. คิดลบตลอด(โลกนี้ช่างโหดร้ายเหลือเกิน)
- ชีวิตคงเศร้าสลดหดหู่ ไม่รู้จะอยู่ไปทำไม
- หวาดระแวงตลอดเวลา ว่าใครจะมาข่มแหง เอาเปรียบ ทำลาย ทำร้าย
- คิดมากๆ คงป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ต้องไปพบจิตแพทย์
- คงทำอะไรสำเร็จได้ยาก เพราะขาดพลังใจ
- เพราะหวาดระแวง กลัวคนจะเอาเปรียบ ก็เลยระวังตัวแจ ไม่มีใครมาเอาเปรียบได้ง่ายๆ
- เรื่องโดนทำลาย ลอบทำร้ายก็คงโดนยาก เพราะระวังตัวอยู่ตลอด(จนเกร็งไปหมด)
3. คิดไปตามสภาวะการณ์(ไม่บวกหรือลบแบบสุดโต่ง)
- ทำให้เราไม่เป็นคนโลกสวยเกิน หรือ หวาดระแวงเกิน
- พิจารณาไปตามเหตุอันเป็นที่มาของผล ในแต่ละเหตุการณ์ และเรื่องราวที่ต้องเผชิญ
- จะเรียกว่าเป็น "ทางสายกลาง" ก็ได้ครับ
- คิดแบบนี้ "กำลังใจ" ก็ยังมีอยู่ คู่กับ "การระแวดระวังภัย" ครับ
ปิดท้าย
- โลกปัจจุบัน มันเร็วจนอยู่ยากขึ้นทุกที ทุกอย่างเร็วเหมือนสัญญาณเน็ต 4G จะมามัวแต่โลกสวย หรือคอยตั้งรับระวังภัย คงเสียโอกาสดีๆ ไปหมดครับ
- ทำใจร่มๆ เข้าไว้ครับ แบบกลางๆ ด้วย
หมายเหตุ
- ทุกเรื่องราวของ vcanfit ท่านสามารถแขร์ได้เลย ไม่มีหวง จะได้เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพสำหรับผู้คนในวงกว้าง ครับ
- สงสัยเรื่องอาหาร/สุขภาพ อยากได้คำตอบแบบสั้นๆ ง่ายๆ ที่อิงหลักวิชาการ ลองเข้าGoogle พิมพ์ vcanfit เว้นวรรค แล้วพิมพ์ คำที่ต้องการหา (เป็นภาษาไทยหรืออังกฤษก็ได้) จากนั้นกด ENTER ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น