วันพุธที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2559

สีของปัสสาวะ

หลายท่านที่สังเกตุสี และลักษณะของปัสสาวะตัวเอง(คงไม่มีใครไปสังเกตุของคนอื่นนะครับ)  อาจสงสัยว่า ทำไมสีเป็นแบบนี้(หว่า)? มาดูคำอธิบายคร่าวๆ กันครับ

ปัสสาวะ

  • คือ ของเสีย ซึ่งเป็นของเหลวที่ร่างกายขับถ่ายออกมาโดยไต ด้วยกระบวนการกรองจากเลือดแล้วขับออกทางท่อปัสสาวะ
  • การสังเกตุลักษณะของปัสสาวะ ก็พอจะบอกถึงสุขภาพร่างกาย และโรคภัยที่กำลังจะมาเยือนเราได้ครับ

สังเกตุอย่างไร?

1. สังเกตุปริมาณ

  • คนปกติจะถ่ายปัสสาวะวันละ 3 ถึง 5 ครั้ง ตั้งแต่ตื่นนอนเช้าถึงก่อนเข้านอน ส่วนกลางคืนหลังเข้านอนแล้วไม่ควรถ่ายปัสสาวะอีกจนถึงเช้า นอกจากจะดื่มน้ำมากหรือในเด็กเล็ก
  • ถ้าปัสสาวะบ่อยเป็นประจำ กะปริบกะปรอย อาจเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้
  • เด็กอายุ 1- 6 ปี จะถ่ายปัสสาวะวันหนึ่งไม่น้อยกว่า 1/3 ลิตร และไม่ควรมากกว่า 1 ลิตร
  • เด็กอายุ 6 - 12 ปี ควรถ่ายปัสสาวะวันหนึ่งไม่น้อยกว่า 1/2 ลิตร และไม่ควรเกิน 2 ลิตร
  • ผู้ใหญ่ควรถ่ายปัสสาวะวันละ 1 ลิตร และไม่ควรเกิน 2 ลิตร
  • การถ่ายปัสสาวะน้อยไป ส่วนใหญ่เกิดจากการดื่มน้ำน้อย หรือร่างกายเสียน้ำ เช่น เหงื่อออกมาก ท้องเดิน อาเจียนมาก เป็นต้น ส่วนน้อยอาจเกิดจากโรคไต และอื่น ๆ
  • การถ่ายปัสสาวะมากไป ส่วนใหญ่จะเกิดจากการดื่มน้ำมาก หรือ อาจเกิดจากยาบางชนิดเช่น ยาลดความดัน และอาจเกิดจากโรคเบาหวาน โรคเกี่ยวกับระบบประสาท

2. สังเกตุสี  

สีใส-->เหลืองอ่อน                               .

  • เป็นสีปัสสาวะปกติ
  • ถ้าดื่มน้ำน้อยปัสสาวะจะน้อยและมีสีเข้มขึ้น
  • ถ้าดื่มน้ำมากปัสสาวะก็จะมากและมีสีอ่อนลง 

สีส้ม-->แดง                                         .

  • มักเกิดจากการกินอาหารบางชนิด เช่น แก้วมังกรสีแดง แบล็คเบอรี่ หัวบีท มะละกอสุก
  • เกิดจากการกินยาบางชนิด เช่น ยาฆ่าเชื้อทางเดินปัสสาวะ ยากันชัก ยารักษาวัณโรค
  • เกิดจากการมีเลือดออกในทางเดินปัสสาวะ เช่น กระเพาะปัสสาวะอักเสบ(พบบ่อย) นิ่ว
  • อาจเกิดจากการมีรอบเดือน แล้วปนเปื้อนกันตอนถ่ายปัสสาวะ ก็เป็นได้ครับ

สีน้ำตาล-->ดำ                                      .

  • เกิดจากการใช้ยา ควินิน (Quinine) ที่ใช้รักษาโรคมาลาเรีย
  • ผู้ที่เป็นโรคเลือด G6PD Deficiency เมื่อได้รับยา หรืออาหารที่แพ้ เช่น ถั่วปากอ้า จะเกิดเม็ดเลือดแดงแตก จนปัสสาวะออกมาสีคล้ำมากๆ

สีฟ้า-->เขียว                                         .

  • มักเกิดจากการใช้ยาฆ่าเชื้อในทางเดินปัสสาวะที่ชื่อ เมธิลีนบลู (Methylene Blue) ซึ่งไม่เป็นอันตรายอะไร

สีน้ำนม                                                   .

  • สีขาวขุ่น มักเกิดจากหนองที่เกิดจากการอักเสบของทางเดินปัสสาวะ ถ้าพบไม่ควรนิ่งนอนใจนะครับ
  • อาจเป็นสีของไขมัน ซึ่งเกิดจากการที่ท่อน้ำเหลืองอุดตัน เช่น ผู้ป่วยที่เป็นโรคเท้าช้าง

ปิดท้าย

  • หมั่นสังเกตุตัวเองกันนะครับ จะช่วยป้องกันโรคภัยต่างๆ ได้ หรืออย่างน้อยก็ช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาครับ

หมายเหตุ

  • ทุกเรื่องราวของ vcanfit ท่านสามารถแขร์ได้เลย ไม่มีหวง จะได้เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพสำหรับผู้คนในวงกว้าง ครับ
  • สงสัยเรื่องอาหาร/สุขภาพ อยากได้คำตอบแบบสั้นๆ ง่ายๆ ที่อิงหลักวิชาการ ลองเข้า Google พิมพ์ vcanfit  เว้นวรรค แล้วพิมพ์ คำที่ต้องการหา (เป็นภาษาไทยหรืออังกฤษก็ได้) จากนั้นกด ENTER ครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น