วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

กุยช่ายขาว กุยช่ายเขียว : Chinese Chive


    กุยช่ายที่ขายๆ กันในบ้านเรา มี 3 แบบ คือ กุยช่ายเขียว กุยช่ายขาว และดอกกุยช่าย แต่ละอย่างเป็นอย่างไร มาดูกันครับ

กุยช่าย (Chinese Chive)

  • เป็นพืชวงศ์เดียวกับหอมและกระเทียม 
  • ในท้องตลาดมีกุยช่าย 3 ชนิด ได้แก่ กุยช่ายเขียว กุยจ่ายขาว และดอกกุยช่าย ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นกุยช่ายพันธุ์เดียวกันทั้งหมด แตกต่างกันที่วิธีปลูกเท่านั้นเองครับ 
  • ถ้าปลูกโดยให้รับแสงแดดปกติ ใบจะเขียวเข้มได้เป็นกุยช่ายเขียว แต่ถ้าปลูกไม่ให้โดนแสงโดยเอากระถางดินเผาครอบ ใบกุยช่ายจะสีซีดจนขาว ได้เป็นกุยช่ายขาว ครับ
  • กุยช่ายขาว ใบจะอวบ และหวานกรอบกว่ากุยช่ายเขียว มีราคาแพงกว่ากุยช่ายเขียวมาก
  • เมื่อปลูกกุยช่ายให้โตจนออกดอก ก็จะได้ดอกกุยช่ายมาเป็นอาหารครับ

ประโยชน์

  • กุยช่ายเขียว ใช้กินสดกับลาบ หรือผัดไทย ใช้ทำไส้ของขนมกุยช่าย 
  • กุยช่ายขาว  นิยมนำไปผัดกับหมูกรอบ หรือ เต้าหู้ ผัดหมี่ซั่ว ผัดหมีฮ่องกง
  • ดอกกุยช่าย นิยมนำมาผัดกับตับหมู
  • กุยช่าย มีฤทธิ์ร้อน ช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกายได้ จึงเหมาะที่จะกินในช่วงหน้าหนาวหรือหน้าฝน
  • มีธาตุเหล็กสูง ช่วยในการสร้างเม็ดแดง
  • มีวิตามินเอที่ช่วยในการมองเห็น ช่วยบำรุงสายตา 
  • มีแคลเซียม และฟอสฟอรัสสูง ช่วยบำรุงกระดูก 
  • มีสารอัลลิซิน ซึ่งทำให้กุยช่ายมีกลิ่นฉุน อัลลิซินมีฤทธิ์ในการลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีในเลือด และช่วยลดความดันโลหิต
  • มีเส้นใยอาหารปริมาณที่สูงมาก ช่วยเพิ่มปริมาณกากอาหารทำให้ขับถ่ายคล่อง และลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งลำไส้

ปิดท้าย

  • กุยช่ายที่ผ่านการปรุงโดยใช้ความร้อน จะมีรสหวานขึ้น และกลิ่นฉุนลดลง
  • กุยช่ายที่กินสดๆ เช่นกินกับผัดไทย เราจะได้วิตามินC มากกว่าที่ผ่านความร้อนแล้ว
  • กุยช่ายขาวมีประโยชน์น้อยกว่ากุยช่ายเขียว เนื่องจากไม่มีคลอโรฟิล และมีเบต้าแคโรทีนน้อยกว่า 

หมายเหตุ 


  • ทุกเรื่องราวของ vcanfit ท่านสามารถแขร์ได้เลย ไม่มีหวง จะได้เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพสำหรับผู้คนในวงกว้าง ครับ
  • สงสัยเรื่องอาหาร/สุขภาพ อยากได้คำตอบแบบสั้นๆ ง่ายๆ ที่อิงหลักวิชาการ ลองเข้า Google พิมพ์ vcanfit  เว้นวรรค แล้วพิมพ์ คำที่ต้องการหา (เป็นภาษาไทยหรืออังกฤษก็ได้) จากนั้นกด ENTER ครับ




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น