เคยไปสอนหลักสูตรปริญญาตรี วิชาที่เรียนกันยาวเป็นเทอม อาจารย์กับศิษย์เลยสนิทกัน ตอนนั้นพูดถึงเรื่อง "น้ำเหลืองไม่ดี" ขึ้นมา ศิษย์รักก็ต่อให้ว่า "ใช่ค่ะ น้ำเขียวดีกว่า ใส่น้ำแข็งโซดา หนูชอบ" อาจารย์ก็ได้แต่ทำปากขมุบขมิบ ไม่กล้าด่าออกไมโครโฟน เพราะมันไปดังที่ห้องหัวหน้าภาควิชาด้วย
น้ำเหลืองไม่ดี
- เป็นศัพท์พื้นบ้าน ใช้กับอาการที่มีแผล หรือตุ่มพุพองที่มีน้ำเหลืองไหลเยิ้มออกมา (โดยไม่ต้องสนใจว่าสาเหตุของมันคืออะไร)
- มักเป็นอาการที่ มีผื่นคันตามตัว เกาจนผิวหนังถลอก มีน้ำเหลืองไหลเยิ้ม ชาวบ้านเลยเรียกว่าเป็น "น้ำเหลืองไม่ดี" หรือ "น้ำเหลืองเสีย" ทั้งๆที่น้ำเหลืองคนๆนั้นไม่ได้เสียอะไรเลยครับ
สาเหตุ
ทางการแพทย์ ผู้ที่มีอาการแบบที่เรียกกันติดปากว่า "น้ำเหลืองไม่ดี" นั้น เกิดจากสาเหตุต่างๆ ดังนี้- โรคภูมิแพ้ของผิวหนัง เช่นแพ้เวลาโดนยุงกัด แพ้สารเคมี แพ้ไรฝุ่น ฯลฯ
- ผิวหนังถูกสารที่ระคายเคือง เช่น ถูกสารเคมีทางการเกษตร น้ำยาล้างห้องน้ำ น้ำยาล้างจาน ฯลฯ
- การติดเชื้อ เช่น กลาก เกลื้อน งูสวัด เริม หรือเชื้อโรคอื่นๆ
การรักษา
- รักษาอาการ ส่วนมากมักต้องกระทำก่อน ผู้ป่วยถึงจะรู้สึกดีขึ้น เช่นอาการคัน แก้ด้วยการกินยาแก้แพ้ เจ็บแสบ ต้องทำแผล
- แก้ที่สาเหตุ หากหาสาเหตุได้ หรือสงสัยว่าเกิดจากตัวกระตุ้นใด ก็จะรักษาตามสาเหตุ เช่น เกิดจากการติดเชื้อ ก็ให้ยาที่กำจัดเชื้อนั้นๆ
- ป้องกันผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น ผิวหนังที่พุพองจนมีน้ำเหลืองไหลออกมามีโอกาสที่จะติดเชื้อต่างๆได้ ต้องหมั่นทำแผลให้สะอาด และปิดด้วยวัสดุปิดแผลที่สะอาด
ปิดท้าย
- น้ำเหลืองไม่ดี ที่พูดกันส่วนใหญ่ มักเป็นผื่นแพ้ที่ผิวหนังซึ่งเกิดในวัยเด็ก พอโตขึ้นก็มักจะหายไปครับ
- ดูแลสุขอนามัยให้ดี ไม่สกปรก หมักหมม
- ตัดเล็บให้สั้นเข้าไว้ จะได้ลดความรุนแรงที่เกิดจากการเกาครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น