วันอังคารที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

น้ำกระเจี๊ยบ ชื่นใจ ขับปัสสาวะ : Roselle


    คนทำงานออฟฟิศ นักเรียน นักศึกษา ที่ฝากท้องไว้กับศูนย์อาหาร หรือ โรงอาหาร จะเจอร้านขายน้ำแบบโหลแก้วใส ใช้กระบวยตักใส่แก้วน้ำแข็ง แต่ละโหลก็มีสารพัดสีต่างกันไป ถ้าเคยยืนจ้องแล้วเลือกไม่ถูก วันนี้ขอแนะนำ น้ำกระเจี๊ยบ ครับ

กระเจี๊ยบแดง(Roselle)

  • กระเจี๊ยบเป็นพืชเขตร้อน ที่พบได้ในหลายประเทศ 
  • กลีบเลี้ยงของดอกกระเจี๊ยบ เป็นสมุนไพรที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย
  • กระเจี๊ยบแดงเป็นสมุนไพรที่คนไทยคุ้นเคยกันดี น้ำกระเจี๊ยบสีสวย รสเปรี้ยวหวาน กลิ่นหอม กินแล้วชื่นใจ
  • ในอียิปต์ ใช้กลีบเลี้ยงต้มกับน้ำตาล กินวันละ เวลา ใช้รักษาความดันโลหิตสูง
  • ในประเทศไทย ใช้กลีบเลี้ยงทั้งสด และแห้งของกระเจี๊ยบต้มกิน แก้ไอ แก้นิ่ว ลดไข้ โดยใช้กลีบเลี้ยงแห้ง 5-10 กรัม ต้มน้ำหรือชงน้ำร้อนกิน
  • กลีบเลี้ยงของกระเจี๊ยบแดงมีฤทธิ์ ขับปัสสาวะ ใช้รักษาอาการปัสสาวะขัดได้ โดยกระทรวงสาธารณสุข (สาธารณสุขมูลฐาน)แนะนำให้ใช้ กลีบเลี้ยงของกระเจี๊ยบแดงแห้ง 3 กรัม  บดเป็นผง ชงกับน้ำเดือด 1 ถ้วยแก้ว หรือประมาณ 300 มิลลิลิตร ดื่มวันละ 3 ครั้ง นาน 7 วัน ถึง 1 ปี
  • น้ำจากกลีบเลี้ยงของกระเจี๊ยบแดงมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ จึงสามารถ ลดความดันโลหิตอย่างอ่อนๆได้
  • น้ำกระเจี๊ยบแดง ไม่มีผลป้องกันการเกิดนิ่ว 
  • สารสกัดด้วยน้ำร้อนจากกลีบเลี้ยงของกระเจี๊ยบมีฤทธิ์ต้านเชื้อ Staphylococcus aureus และ Bacillus cereus  แต่จากการศึกษาในผู้ป่วย 32 คน ที่ให้กินน้ำชงกระเจี๊ยบในขนาด 6 กรัม วันละ 4 ครั้ง เป็นเวลา 5 วัน และให้ผู้ป่วยดื่มน้ำไม่น้อยกว่า 2 ลิตร/วัน พบว่าน้ำชงกระเจี๊ยบ ไม่มีผลฆ่าเชื้อแบคทีเรียในระบบทางเดินปัสสาวะของผู้ป่วย
  • น้ำกระเจี๊ยบมีพิษต่ำ แต่ถ้าดื่มแบบเข้มข้นมากติดต่อกันนานๆจะไม่เกิดผลดีต่อร่างกาย
  • ความเป็นพิษ พบว่า ปริมาณที่ทำให้หนูตายครึ่งหนึ่งนั้น ต้องกินน้ำสกัดกระเจี๊ยบ 129.1 กรัมต่อน้ำหนักหนู 1 กิโลกรัม ซึ่ง ถ้าเปรียบเทียบแล้ว คนหนักประมาณ 60 กิโลกรัม จะต้องกินน้ำสกัดกระเจี๊ยบถึง 7.8 กิโลกรัม คิดว่าคงไม่มีใครกินได้เยอะขนาดนี้หรอกครับ เพราะคงท้องแตกตายก่อนจะเกิดพิษแล้วละครับ

วิธีทำน้ำกระเจี๊ยบ

ส่วนผสม

ดอกกระเจี๊ยบแห้ง น้ำตาลทราย (ซูคราโลส หรือ ใบหญ้าหวาน) เกลือ

วิธีทำ แบบ1

  1. นำดอกกระเจี๊ยบแห้งล้างน้ำทำความสะอาด
  2. ใส่หม้อต้มจนเดือด 
  3. เคี่ยวจนน้ำเป็นสีแดงข้น
  4. กรองเอาดอกกระเจี๊ยบออก
  5. ปล่อยให้เดือดสักครู่ ยกลง
  6. เติมน้ำตาลและเกลือลงไป
  7. แบ่งใส่แก้ว เติมน้ำแข็งดื่มได้ทันที หากทำมากก็เทใส่ขวด แช่ตู้เย็นเก็บไว้ได้นาน

วิธีทำ แบบ 2

  1. นำดอกกระเจี๊ยบมาตากแห้ง
  2. บดเป็นผง
  3. ใช้ปริมาณครั้งละ ๑ ช้อนชา ชงในน้ำเดือด ๑ ถ้วย ดื่ม

หมายเหตุ 


  • ทุกเรื่องราวของ vcanfit ท่านสามารถแขร์ได้เลย ไม่มีหวง จะได้เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพสำหรับผู้คนในวงกว้าง ครับ
  • สงสัยเรื่องอาหาร/สุขภาพ อยากได้คำตอบแบบสั้นๆ ง่ายๆ ที่อิงหลักวิชาการ ลองเข้า Google พิมพ์ vcanfit  เว้นวรรค แล้วพิมพ์ คำที่ต้องการหา (เป็นภาษาไทยหรืออังกฤษก็ได้) จากนั้นกด ENTER ครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น