วันอังคารที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

เม็ดมะม่วงหิมพานต์ : Health benefits of cashews


    เม็ดมะม่วงหิมพานต์ นอกจากจะเคี้ยวมัน เคี้ยวเพลินแล้ว ยังมีอะไรที่คาดไม่ถึงซ่อนอยู่ ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงที่เมล็ดยื่นออกมาท้าทายอยู่นอกผล,เรื่องที่มาของชื่อ และประโยชน์ต่อร่างกาย

มะม่วงหิมพานต์ (Cashew)

- หนังสือ "นิทานไทย 50 เรื่อง" เรื่องที่ 29 เล่า ตำนานของมะม่วงหิมพานต์ ไว้ว่า 
  • ครั้งหนึ่ง หัวหน้าเทวดาบนสวรรค์เกิดป่วยขึ้นมา เหล่าเทวดาทั้งหลายต่างพากันไปหาผลไม้ชนิดต่างๆ มาคั้นทำยารักษา แต่ก็ไม่หาย 
  • ตกกลางคืนเทพเจ้าได้มาเข้าฝันว่า ผลไม้ที่สามารถรักษาอาการป่วยครั้งนี้ได้นั้น มีอยู่ต้นเดียวและ มีผลอยู่ลูกเดียวเท่านั้น อบู่ในป่าหิมพานต์ ลักษณะเป็นผลสีเหลือง เป็นต้นไม้ใหญ่ มีใบหนา แผ่กิ่งก้านสาขาปกคลุมทั่วบริเวณอย่างกว้างขวาง
  • เมื่อเทวดาทั้งหลายทราบเรื่อง ก็พากันเหาะไปเก็บมา พอได้กินยาที่คั้นจากน้ำผลไม้แห่งป่าหิมพานต์แล้ว หัวหน้าเทวดาก็หายป่วยทันที 
  • ฝ่ายต้นแม่ของผลไม้นั้นก็เสียใจที่โดนพรากลูกไป จนมีลูกอีกทีก็มีอายุมากใกล้จะตายอยู่แล้ว 
  • ลูกใหม่ที่ออกมาก็คิดว่า ถ้าแม่ตายมันคงอยู่ไม่ได้ (เพราะไม่มีต้นแม่คอยให้อาหารหล่อเลี้ยง) จึงพยายามคายเม็ดออกมา ให้หล่นสู่พื้น เพื่อจะได้งอกเป็นต้นพันธุ์ต่อไป
  • ฝ่ายหัวหน้าเทวดาเห็นผลของต้นไม้ที่เคยใช้เป็นยา กำลังคายเมล็ดเกือบจะร่วงลงดินอยู่แล้ว ก็ตวาดไปว่า “อย่าร่วง” ด้วยวาจาสิทธิ์เมล็ดผลไม้นั้นเลยไม่ร่วง และติดห้อยอยู่กับผลด้านนอกมาตราบทุกวันนี้ 
  • คำว่า "อย่าร่วง" ต่อมาเพี้ยนไปเป็น “ยาร่วง” (ซึ่งเป็นชื่อเรียกมะม่วงหิมพานต์ของชาวใต้) ต่อมาได้เพี้ยนจากยาร่วงมาเป็น “มะม่วง” และเนื่องมาจากต้นพันธุ์ดั้งเดิมอยู่ในป่าหิมพานต์ จึงเรียกว่า “มะม่วงหิมพานต์” 
- ในแต่ละพื้นที่จะเรียกไม่เหมือนกัน เช่น บางที่เรียก ลูกยาร่วง หัวครก เม็ดล่อ กาหยี และ กาหยู 

ประโยชน์ของเม็ดมะม่วงหิมพานต์

  • เมื่อเทียบกับถั่วเปลือกแข็งด้วยกันแล้ว เม็ดมะม่วงหิมพานต์ถือว่า มีไขมันน้อยกว่ามาก คือ 47% เท่านั้น ทำให้เมื่อแกะเปลือกออกแล้ว เก็บได้นาน ไม่เหม็นหืน 
  • ไขมันในเม็ดมะม่วงหิมพานต์เป็นไขมันชนิดดี ถึง 75% 
  • ช่วยควบคุมน้ำหนัก มีการทดลองที่ตีพิมพ์ใน Journal of Obesity พบว่า ผู้ที่กินเม็ดมะม่วงหิมพานต์ หรือถั่วชนิดต่างๆ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง มีโอกาสน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าผู้ที่ไม่กินถึง 31%   
  • มี ฟอสฟอรัส (593 มก./100 ก.) และ แมกนีเซียม (292 มก./100 ก.)ช่วยบำรุงรักษาสถาพของกระดูก ช่วยการทำงานของระบบประสาท และกล้ามเนื้อ
  • มี ทองแดง (2.2 มก./100 ก.) ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของเอนไซม์ในร่างกาย ช่วยให้ร่างกายใช้ธาตุเหล็กได้ดี,ช่วยต้านอนุมูลอิสระ มีคามสำคัญต่อการสร้างความแข็งแรงของผนังหลอดเลือด และเนื้อเยื่อต่างๆด้วย
  • มี ไนอะซิน (1.06 มก./100 ก.)ช่วยปรับอารมณ์ และลดอาการซึมเศร้า
  • มี วิตามินอี (0.9 มก./100 ก.)
  • มี เส้นใยอาหาร (3.3 มก./100 ก.)
อ้างอิง
Bes-Rastrollo M, Sabate J, Gomez-Gracia E, Alonso A, Martinez JA, Martinez-Gonzalez MA. Nut consumption and weight gain in a Mediterranean cohort: The SUN study. Obesity (Silver Spring). 2007 Jan;15(1):107-16. 2007. PMID:17228038.

หมายเหตุ 


  • ทุกเรื่องราวของ vcanfit ท่านสามารถแขร์ได้เลย ไม่มีหวง จะได้เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพสำหรับผู้คนในวงกว้าง ครับ
  • สงสัยเรื่องอาหาร/สุขภาพ อยากได้คำตอบแบบสั้นๆ ง่ายๆ ที่อิงหลักวิชาการ ลองเข้า Google พิมพ์ vcanfit  เว้นวรรค แล้วพิมพ์ คำที่ต้องการหา (เป็นภาษาไทยหรืออังกฤษก็ได้) จากนั้นกด ENTER ครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น