คนธรรมดาอย่างเราๆ ท่านๆ จะให้ใจใสเหมือนแก้วตลอดเวลาคงยาก แม้จะพยายามก็คงมีโกรธบ้าง โลภบ้าง หลงบ้าง ในบางที
- โดยเฉพาะต้ว โกรธ นี่ เป็นกันบ่อย ลองได้โกรธขึ้นมา นอกจากใจจะขุ่น แล้วตาจะเขียวด้วย
- เมื่อโกรธมากๆ ก็มักตัดสินใจทำอะไรรุนแรงเกินไปอย่างไม่รู้ตัว ที่เรียกกันว่า บันดาลโทสะ แล้วก็ต้องมานั่งเสียใจภายหลัง ว่าไม่น่าเลยตู
- คนเราย้อนเวลาไปแก้ไขสิ่งเลวร้ายทีเกิดขึ้นมาแล้วไม่ได้ ดังนั้นหนทางที่ดีที่สุด คือ ป้องกันอย่าให้เกิด โดย อย่าใจร้อนด่วนตัดสินใจทำอะไร ในช่วงที่กำลังใจคอขุ่นมัว
- ถ้าตอนไหนที่จิตใจขุ่นมัว ก็ ให้อยู่เฉยๆ เข้าไว้ ไม่ต้องคิด ไม่ต้องตัดสินใจ ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น (ยกเว้นหายใจ) เพราะการตัดสินใจในช่วงที่จิตใจขุ่นมัว มักจะเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดเสียเป็นส่วนใหญ่
- พระท่านว่า "เมื่อน้ำใส กระจ่างแจ๋ว ย่อมจะมองเห็นหอยกาบ หอยโข่ง กรวด ทราย และฝูงปลา ได้ฉันใด เมื่อจิตใจไม่ขุ่นมัว ย่อมมองเห็นประโยชน์ตน ประโยชน์ผู้อื่นได้ฉันนั้น" จาก ขุททกนิกาย ชาดก ๒๗/๒๒๐
- คนเรา มีชีวิตอยู่ ไม่เกิน 30,000 วัน ก็ต้องตายจากโลกนี้ไปแล้ว ถ้าใครโมโหโทโสง่าย ใจขุ่น คิดวนเวียนจะแก้แค้นอยู่ตลอด ก็ น่าเสียดายวันเวลาที่หมดไปพร้อมกับใจที่ไม่เป็นสุขนะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น