ผมเป็นคนสมุทรปราการ ถึงจะเกิดและโตใน กทม.อยู่ 4 ปี สิ่งที่ภาคภูมิใจของบ้านผมก็คือ "ปลาสลิดบางบ่อ" แบบว่าปลาสลิดของ "อำเภอบางบ่อ" นะครับ ไม่ใช่ "ปลาสลิดที่เลี้ยงไว้ในบ่อ ที่บางบ่อดี บางบ่อก็ไม่ดี"
ปลาสลิด (Snake Skin Gourami)
- ปลาสลิด หรือ ปลาใบไม้ เป็นปลาน้ำจืดในภาคพื้นเอเซีย พบมากใน ไทย กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย ฟิลิปินส์ อินโดนีเซีย อินเดีย ปากีสถาน และศรีลังกา
- ขนาดตัวโดยเฉลี่ย 10-16 เซนติเมตร พบขนาดใหญ่สุดถึง 25 เซนติเมตร
- ปลาสลิดเป็นปลามหัศจรรย์ ไม่มีโรค มีความต้านทานต่อโรคสูงมาก เลี้ยงง่าย ขายรายได้ดี
- ในเมืองไทยนิยมเลี้ยงกันมากในแถบบริเวณภาคกลาง ซึ่งมักจะเลี้ยงอยู่ในนาข้าว
- คนเลี้ยงปลาสลิด เรียกว่า ชาวนาปลาสลิด และบ่อเลี้ยงปลาสลิด เรียกว่า แปลงนาปลาสลิด หรือ ล้อมปลาสลิด
- แหล่งปลาสลิดที่รู้จักกันเป็นอย่างดี คือ ปลาสลิดบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นที่นิยมของผู้บริโภคทั่วไป
- ปลาสลิดบางบ่อมักจะตัวอ้วนใหญ่กว่าปลาสลิดที่อื่นๆ เพราะว่าที่บางบ่อเป็นน้ำกร่อยเกิดไรแดงได้ง่าย ไรแดงเป็นอาหารโปรดของปลาสลิด ทำให้ปลาตัวโตน่ากินกว่าที่อื่นๆ
- ปัจจุบันพื้นที่เลี้ยงปลาสลิดที่ใหญ่ที่สุดอยู่ที่ อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร
ปลาสลิดตากแห้ง
- ปลาสลิดเป็นปลาที่มีลำตัวแบนเหมาะในการทำปลาเค็ม(ตากแห้ง)มากๆ
- ปลาสลิดมีมันมาก(ถึงได้กินอร่อยครับ) โดยเฉพาะในส่วนท้องหรือพุงปลา ซึ่งก่อนจะนำมาคลุกเคล้าเกลือเพื่อแปรรูปนั้น จะต้องควักไส้ควักพุง ตัดหัวออก เพื่อเวลาตากแดดแล้วปลาจะได้แห้งสนิท ไม่มีกลิ่นเหม็นเน่า
- เขาจะหมักปลากับเกลือไว้ 1 คืน แล้วน้ำมาล้างเกลือออก นำไปตากแดด
- ถ้าตากไว้ 1 วัน ก็เรียกว่า ปลาสลิดแดดเดียว เพื่อให้แห้งพอหมาด ๆ เหมาะสำหรับทอดให้กรอบกำลังดี เนื้อปลาจะนุ่ม ไม่แข็งกระด้างเกินไป ถ้าตาก 2 วัน ก็เรียกว่า ปลาสลิดสองแดด
- ปลาสลิดหอม บางบ่อ เขาจะปล่อยให้เนื้อตายจนขาวขุ่นก่อน ค่อยใส่เกลือ (อาจใช้เวลาเป็นชั่วโมง) แล้วหมักก่อนนำไปตากแดดจนแห้งสนิท เมื่อได้ปลาสลิดออกมาจะเรียกว่าปลาหอม (แต่บางคนอาจไม่ชอบก็ได้ครับ เพราะจะมีกลิ่นตุๆ เล็กน้อย)
- ปลาสลิดที่ไม่ใช่แบบปลาหอม เขาจะนำไปใส่เกลือเลยไม่ต้องปล่อยให้เนื้อตายก่อน
- ไข่ปลาสลิดทอด มัน อร่อยมากๆ แต่ถ้ากินเข้าไปมาก เวลาถ่ายแล้วจะล้างก้นยาก (ไขมันจะซึมแฉะ เชียวละครับ)
ประโยชน์
- การกินปลานั้นดีต่อสุขภาพ เพราะเนื้อปลาเป็นแหล่งของโปรตีนที่ย่อยง่าย มีแร่ธาตุ และวิตามิน เช่น แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินA วิตามินB12 และ วิตามินD
- ปลาสลิดจัดว่าเป็นปลาที่มีไขมันปานกลาง โดยมีไขมัน 5.9 กรัม/100กรัม ซึ่งมากกว่าปลานิล 3 เท่า แต่น้อยกว่า ปลาดุก ปลาช่อน และปลาสวาย
- ปลาสลิด มีกรดไขมัน โอเมก้า-3 อยู่ด้วย 0.36 กรัม/100 กรัม
การเลือกซื้อปลาสลิด(ตากแห้ง)
- ลองกดๆดูว่าเนื้อเข็งไหม เนื้อจะต้องไม่นิ่มฉุ
- ดมดูต้องไม่เหม็น
- เลือกแบบเกรดดีตัวโตไปเลย (ถ้าไม่ได้กินบ่อย กินทั้งที่เอาแบบอร่อยจุใจไปเลย)
- การดูว่าปลาสลิดเค็มหรือไม่ ดูได้จากสีของปลาหลังทอด หากเป็นสีขาวจะเค็ม (อันนี้เอาไว้เลือกชิ้นปลาสลิดที่เขาทอดแล้ว)
ปิดท้าย
- มีข่าวไม่สู้ดีออกมาว่ามีคนนำมันหมูยัดไว้ในปลาสลิดให้น้ำหนักเพิ่ม
- อันนี้ทำลายภาพพจน์ และความนิยมของผุ้บริโภคสุดๆ ครับ ใครจะซื้อก็ชะงัก ทำลายตลาดปลาสลิดตากแห้งโดยรวมแท้ๆ เลยครับ
- อย่าให้ถึงจุดที่ พวกเราต้องขอให้ผ่าครึ่งซีกปลาสลิดให้ดูทุกตัวก่อนจ่ายเงินซื้อเลยครับ
หมายเหตุ
- ทุกเรื่องราวของ vcanfit ท่านสามารถแขร์ได้เลย ไม่มีหวง จะได้เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพสำหรับผู้คนในวงกว้าง ครับ
- สงสัยเรื่องอาหาร/สุขภาพ อยากได้คำตอบแบบสั้นๆ ง่ายๆ ที่อิงหลักวิชาการ ลองเข้า Google พิมพ์ vcanfit เว้นวรรค แล้วพิมพ์ คำที่ต้องการหา (เป็นภาษาไทยหรืออังกฤษก็ได้) จากนั้นกด ENTER ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น