ปีละครั้งกับทุเรียนในราคาที่ซื้อได้อย่างไม่รู้สึกว่าแพง ก็ช่วงพฤษภาคม-มิถุนายน นี่ละครับ กับผลไม้วัดใจ คนที่ไม่ชอบได้กลิ่นก็พาลจะเป็นลม ส่วนคนที่ชอบนี่สิครับ ตบะแตกน้ำหนักขึ้นกันคนละหลายกิโลแน่ๆ
ทุเรียน (Durian)
- Durian น่าจะมาจากคำว่า duri ในภาษามาเลย์ ที่แปลว่าหนาม
- ทุเรียน เป็นพืชพื้นเมืองของประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย และบรูไน โดยมีสีเนื้อผล ตั้งแต่ สีเหลือง ไปจนถึงสีแดง แตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ ซึ่งมีมากกว่า 30 สายพันธุ์ และมีอยู่เพียง 9 สายพันธุ์ ที่สามารถกินได้
- ใน 9 สายพันธุ์ที่กินได้ มีเพียงสายพันธุ์เดียวเท่านั้น ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ชื่อยาวเรียกยาก อย่าไปสนใจเลยครับ สนแค่เจ้าสายพันธุ์นี้ยังแบ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยอีกมากมาย แต่ที่นิยมที่สุด คือ พันธุ์หมอนทอง ชะนี กระดุม และ ก้านยาว ครับ
- จากหนังสือประวัติประเทศไทยสมัยอยุธยา ในช่วงแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ที่เขียนโดย เมอสิเออ เดอลาลูแบ ตีพิมพ์เมื่อปี พ.ศ. 2336 ตอนนึง มีการกล่าวถึงทุเรียนไว่ว่า “ดูเรียน หรือ ที่ชาวสยาม เรียกว่า ทุนเรียน เป็นผลไม้ที่นิยมกันมากในแถบนี้” จากหลักฐานดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าคนไทยเรารู้จักกินทุนเรียน หรือ ทุเรียน กันมาตั้งแต่สมัยอยุธยาโน่นแล้ว เชื่อว่ามีการนำเข้ามาจากทางภาคใต้
- ทุเรียนบ้านเรา ในอดีต เคยมีผลผลิตออกสู่ตลาดได้ปีละ 4 เดือน คือ ช่วง พฤษภาคม – มิถุนายน เป็นทุเรียนจากภาคตะวันออก แล้วต่อด้วย ทุเรียนจากภาคใต้ ในเดือน กรกฎาคม – สิงหาคม
- ปัจจุบันคนไทยเราเก่งครับ สามารถผลิตทุเรียนได้ถึง 9 เดือน เริ่มตั้งแต่ กุมภาพันธ์ – ตุลาคม โดยมีทั้ง ทุเรียนก่อนฤดู ทุเรียนตามฤดู และ ทุเรียนล่า
- ทุเรียนก่อนฤดู นั้น เขาใช้สารเร่งให้ทุเรียนออกดอกตั้งแต่เดือนสิงหาคม ก็จะสามารถเก็บขายได้ กุมภาพันธ์ - เมษายน ก่อนฤดูปกติ
- ทุเรียนล่า ชื่อก็บอกอยู่ทนโท่แล้วครับ มาช้าแน่นอน เก็บได้ กรกฎาคม – ตุลาคม ครับ
เทคนิคการเลือกทุเรียน
ถ้าจะเลือกดูทุเรียนแก่
กำลังกิน โดยแป้งที่ผลเปลี่ยนเป็นน้ำตาลได้ที่ หวานมันกำลังดีนั้น
ท่านว่าไว้ดังนี้ครับ
- นับอายุ เช่น กระดุม 90-100 วัน ชะนี หลงลับแล 100-110 วัน หมอนทอง 115-120 วัน นับวันตั้งแต่ดอกบานจนถึงผลแก่พอตัดได้ วิธีนี้ชัวร์มาก มีข้อเสียนิดเดียว คือ ท่านคงต้องทำสวนทุเรียนเอง ถึงจะนับอายุได้ครับ
- ดูหนาม ทุเรียนแก่กำลังกิน ปลายหนามจะมีสีน้ำตาลเข้ม ถ้าเอามือบีบปลายหนามเข้าหากันจะรู้สึกว่ามันเด้งได้ คล้ายมีสปริง แต่ถ้าหนามแข็งไม่มีสปริงเลยจะเป็นทุเรียนอ่อนครับ
- ดูก้านผล ก้านของทุเรียนแก่ จะมีลักษณะเป็นสปริง แม้จะเก็บไว้หลายวันก็ตาม ส่วนก้านผลทุเรียนอ่อน จะอ่อนน่วม ไม่มีสปริง
- ดูปลิง บริเวณก้านผล จะมีข้อต่ออยู่ เป็นส่วนของขั้วผล ที่เรียกกันว่า ปลิง หรือ ปากปลิง ทุเรียนแก่จัดที่ปากปลิงจะพองโต เห็นรอยชัดเจน ยิ่ง ถ้าเผยออ้าออก ก็ใช้ได้เลย (ถ้าเป็นหมอนทองอาจต้องรออีกนิดนึงครับถึงจะได้ที่)
- ดูร่องพู ทุเรียนแก่ร่องพูจะมีสีน้ำตาลปนเหลือง แต่ถ้ายังเป็นสีเขียวละก็ทุเรียนอ่อนครับ
- ฟังเสียงเคาะ หาไม้ยาวราวฟุตกว่าๆ เส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกินนิ้วก้อย มาเคาะเลือกทุเรียน ตอนเคาะก็ฟังดู ถ้าเสียง ดังหลวมๆ แปลว่า กำลังกิน แต่ถ้าเสียง ดังแน่น อึบทึบ จะเป็นทุเรียนอ่อน ครับ
- ให้แม่ค้าเลือก และปอกให้ดู โดยแจ้งความต้องการไปว่าเอาที่นิ่มขนาดไหน กินวันนี้เลยรึเปล่า เขาจะเจาะช่องสามเหลี่ยมให้ดูเนื้อ ถ้าตกลงเอาก็ให้เขาแกะใส่กล่องมาเลย สะดวกดีครับ
ข้อควรระวัง
- คนเป็นเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง คงต้องทำใจ กินนิดนึงให้หายอยากก็พอแล้ว
- คนปกติก็อย่าชะล่าใจไป กินเข้าไปมากๆ อาจแย่ได้ ทั้งแน่น ทั้งร้อนรุ่ม เพราะทุเรียน จัดเป็นของร้อนจริงๆ ทั้งจากปริมาณน้ำตาลที่สูงมาก บวกกับคอเลสเตอรอล และกำมะถัน กินแต่พอดี ยึดทางสายกลางไว้ครับ
- ถ้าให้ดีท่านว่าให้กินคู่กับของเย็น คือ มังคุด ครับ เพื่อปรับสมดุลร้อนเย็น ส่วนของเย็นเจี๊ยบที่มีแอลกอฮอล์ ห้ามเด็ดขาด เพราะจัดเป็นของร้อนเช่นกัน กินคู่กัน เดี๋ยวจะหงายหลังตึง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น