สุขได้..เมื่อใจมา
คนเรานี่ก็แปลก นึกอยากจะสุข ถ้าใจมันสุข จะลำบากกายอย่างไร มันก็มีความสุขครับ กลับกัน ถ้าใจมันไม่สุข ต่อให้สบายกายแค่ไหน มันก็ไม่มีความสุขครับ
สุขได้..เมื่อใจมา
- เคยมีพระอาจารย์ ที่ใบหน้าท่านมีความสุขมากๆ เข้าไปสอนนักโทษในคุก ท่านเล่าให้นักโทษฟังว่า ท่านต้องตื่นตั้งแต่ตี 3 ปฏิบัติกิจต่างๆ ออกเดินบิณฑบาตเป็น 10 กิโล ฉันอาหารมื้อเดียว นักโทษฟังแล้วก็บอกว่าชีวิตท่านลำบากกว่าการเป็นนักโทษในคุกเสียอีก
- พระท่านเลย ถามว่า ที่บอกว่ามีความสุข วันๆ ก็มีอาหาร ที่นอน ไม่ต้องขวนขวายทำอะไร ไม่ต้องลำบากกาย แต่ใจเป็นสุขไหม? พระที่บวช เป็นการสมัครใจมาบวช เต็มใจมาเป็นพระ ส่วนท่านนักโทษเต็มใจมาหรือ? ท่านลาลูกเมีย บอกว่าในคุกสบาย เราย้ายไปอยู่คุกกันดีกว่า? ซึ่งก็ไม่ใช่ เพราะอยู่ในคุก ถึงไม่ลำบากกาย แต่ก็ไร้อิสรภาพ อยู่ได้เฉพาะบริเวณที่เขาให้อยู่ในกำแพงแค่นั้นเอง จิตใจไม่เป็นสุขแน่นอน
- จะเห็นได้ว่า ชีวิตพระ แม้กายจะลำบาก แต่พระที่ตั้งใจมาบวช เมื่อตั้งใจก็มีความสุข เพราะใจมันมาแล้ว อะไรก็ตามถึงแม้จะลำบากลำบน แต่ถ้าใจมันมา ความลำบากก็เป็นเรื่องเล็กน้อย ในทางตรงข้าม อะไรที่ดูแสนสบายกาย แต่ถ้าใจมันไม่มา ไม่ชอบ ก็กลายเป็นเรื่องหนัก ไร้ความสุขขึ้นมาทันที
สรุปว่า
- อะไรก็ สุขได้..เมื่อใจมา ครับ
ขอกราบขอบพระคุณ
หนังสือ "รื่นรมย์ในงาน เบิกบานในชีวิต" ของท่าน ว.วชิรเมธี พิมพ์ครั้งแรก ก.ค.๒๕๕๗ โดยสำนักพิมพ์ สัปปายะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น