"คนอมจิน"
หัวเรื่องไม่ได้พิมพ์ผิดครับ ขอยืนยัน "คนอมจิน" จริงๆ ครับ
"คนอมจิน"
- "คนอมจิน" เป็นคำมอญที่เป็นที่มาของคำว่า "ขนมจีน" นั่นเองครับ
- คนมอญเรียกขนมจีนว่า คนอมจิน คนอม คือ "จับกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน" ส่วน จิน คือ "ทำให้สุก"
- ขนมจีน ภาษาเหนือเรียก “ขนมเส้น” ส่วนภาษาอีสานเรียก “ข้าวปุ้น” ครับ
- ขนมจีน กินกับน้ำยากะทิ น้ำยาป่า น้ำพริก น้ำเงี้ยว ซาวน้ำ แกงไตปลา แกงเขียวหวาน ฯลฯ อร่อยทั้งนั้น จัดเป็นอาหารยอดนิยมของคนไทยเราทีเดียว แถมยังได้กินผักเยอะๆ ด้วย มีประโยชน์ต่อร่างกายไม่น้อยเลยครับ
ขนมจีนมี 2 ชนิด..
- ขนมจีนแป้งหมัก ใช้แป้งข้าวเจ้ามาแช่น้ำให้นิ่ม แล้วนำไปโม่ เสร็จแล้วหมักไว้ประมาณเจ็ดวัน จึงนำมานวดด้วยเครื่องนวดแป้ง
- ขนมจีนแป้งสด ใช้วิธีการผสมแป้งข้าวเจ้า (ไม่ต้องทิ้งไว้) แล้วนำมานวดด้วยเครื่องนวดแป้ง
ทั้งสองชนิด หลังจากนวดแป้งแล้วจะเทแป้งใส่กระบอกทองเหลือง ที่เจาะรูไว้ เมื่อกดแป้งเข้าไปในกระบอก
เส้นขนมจีนก็จะไหลออกจากปลายกระบอก เมื่อได้เส้นแล้วก็นำไปต้ม แล้วนำมาราดด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง
ข้อคิด
- ขนมจีนเป็นอาหารเส้นที่ทำจากแป้ง ที่เมื่อเก็บไว้ก็มีโอกาสบูดเสียได้ จึงมีผู้ผลิต(บางราย) ใส่สารกันบูดลงไปด้วย ที่นิยมใช้กันคือ กรดเบนโซอิค ซึ่งเป็นสารที่มีการอนุญาตให้ใส่ในอาหารได้(ในปริมาณที่กำหนด)
- ถ้าร่างกายเราได้รับ กรดเบนโซอิก จากอาหารในปริมาณสูงๆ จนร่างกายขับออกไม่ทัน อาจก่อให้เกิดพิษเฉียบพลันได้ โดยจะมีการระคายเคืองของระบบทางเดินอาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ปวดศีรษะ วิงเวียนได้ ครับ
- ปัญหา(ของพวกเรา) ก็คือ เราไม่มีทางทราบได้หรอกครับ ว่าเจ้าไหนใส่สารกันบูดมาก น้อย หรือ ไม่ใส่เลย ดังนั้น สิ่งที่เราทำได้ก็คือ อย่ากินซ้ำๆ มากเกินไป กินอาหารอื่นๆ ให้หลากหลายเข้าไว้ดีกว่าครับ
หมายเหตุ
- ทุกเรื่องราวของ vcanfit ท่านสามารถแขร์ได้เลย ไม่มีหวง จะได้เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพสำหรับผู้คนในวงกว้าง ครับ
- สงสัยเรื่องอาหาร/สุขภาพ อยากได้คำตอบแบบสั้นๆ ง่ายๆ ที่อิงหลักวิชาการ ลองเข้าGoogle พิมพ์ vcanfit เว้นวรรค แล้วพิมพ์ คำที่ต้องการหา (เป็นภาษาไทยหรืออังกฤษก็ได้) จากนั้นกด ENTER ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น