กลอย อร่อยเสี่ยง
ผมเป็นค้นบ้ากลอยมาตั้งแต่เด็กแล้ว ชอบที่นึ่งมากับข้าวเหนียวมูล สีเหลืองเป็นแผ่น แม่ไม่ชอบให้กินเลยเพราะรู้ว่ามีความเสี่ยงจากพิษ (ถ้าคนทำทำไม่เป็น) แต่เด็กอย่างผม ตอนนั้นยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุละครับ
กลอย : Wild Yam
- พบตามธรรมชาติในอินเดีย
จีนตอนใต้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และนิวกินี ใช้เป็นอาหารในเอเชียและแอฟริกา
- เป็นไม้เถา หัวใต้ดินกลมรี มีรากเล็กๆกระจายทั่ว มี 3-5
หัวต่อต้น
- ในประเทศไทยมักจะขึ้นตามป่าเบญจพรรณที่ค่อนข้างโปร่ง
หัวกลอยจะฝังอยู่ใต้ดินไม่ลึกนัก
- กลอยแบ่งง่ายๆ เป็น 2 พวก ตามลักษณะของลำต้นและตามสีในเนื้อหัวกลอย เป็น กลอยข้าวเจ้า และ กลอยข้าวเหนียว
- กลอยข้าวเจ้าจะมีลักษณะของ
เถาและก้านใบสีเขียว ส่วนกลอยข้าวเหนียวมีเถาสีน้ำตาลอมดำ
- เมื่อนำหัวกลอยมาปลอกเปลือก และหันเป็นแว่นบางๆ
จะพบว่า กลอยข้าวเจ้ามีเนื้อหยาบ สีขาวนวล ส่วนกลอยข้าวเหนียว จะมีสีเหลืองอ่อนถึงเหลืองเข้ม และมีเนื้อเหนียว
- กลอยข้าวเหนียวมีรสชาติดีกว่ากลอยข้าวเจ้า
เราจึงนิยมกินกลอยข้าวเหนียวกันมากกว่าครับ
สารที่พบในกลอย
- กลอยมีสารอาหารจำพวกแป้งมาก
ใช้กินแทนข้าวได้ครับ เวลาเข้าป่า
- กลอยมีสารพิษ ไดออสคอรีน(Dioscorine) ถ้านำมากินโดยไม่ทำลายสารพิษก่อน
จะทำให้เกิดอาการเบื่อเมา เพราะสารนี้จะไปทำลายระบบประสาทส่วนกลางทำให้เป็นอัมพาต
และอาจถึงกับเสียชีวิตได้
- อาการเมื่อเกิดพิษ ได้แก่ ใจสั่น วิงเวียน
คันคอ คลื่นไส้ อาเจียน เหงื่อออก ตาพร่า ชีพจรเบา เร็ว อึดอัด ซีด เป็นลม อาจมีการกระตุกของกล้ามเนื้อ ชัก
- สารพิษในกลอยจะมีปริมาณมากในช่วงฤดูฝน และมีปริมาณลดลงในช่วงฤดูร้อน
การทำลายพิษก่อนนำมากิน
- เนื่องจากสารไดออสคอรีนเป็นสารพิษที่สามารถละลายน้ำได้ดี
เราจึงสามารถใช้น้ำละลายสารพิษออกมาให้หมด ก็จะกินกลอยได้อย่างปลอดภัย
- คนสมัยก่อน ทราบว่ากลอยมีพิษ
และมีวิธีการล้างพิษออกด้วยการฝานหัวกลอยเป็นชิ้นบางๆ แล้วนำมาแช่น้ำไหล เช่น
ในลำธาร ซึ่งต้องใช้เวลาชะล้างสารพิษนานไม่ต่ำกว่า 7 วัน
- อีกวิธีในการล้างพิษกลอย คือ
นำไปแช่ในน้ำเกลือเข้มข้น
เกลือจะช่วยให้เกิดการแลกเปลี่ยนสารไดออสคอรีนในแผ่นกลอยได้เร็วขึ้น
แต่ต้องถ่ายน้ำทิ้งหลายๆ ครั้ง และ ใช้เวลาแช่ไม่ต่ำกว่า 3 วัน
ประโยชน์
- ชาวซาไกใช้น้ำแช่หัวกลอยผสมกับยางน่องใช้เป็นยาพิษอาบหัวลูกธนู
- ในอินเดียใช้หัวกลอยเป็นยาฆ่าเหา และเบื่อปลา
ใช้น้ำแช่หัวกลอยมาฉีดฆ่าแมลงจำพวกหนอน
- เมื่อล้างพิษออกแล้ว นำมาทำอาหารได้ เช่น
ต้มกิน หุงรวมกับข้าว นึ่งปนกับข้าวเหนียวมูล ข้าวเหนียวกลอยหน้าสังขยา หรือโรยงากับน้ำตาล
กลอยชุบแป้งทอดแบบกล้วยแขก ฯลฯ
ปิดท้าย
- ปัจจุบันเรายังไม่มีระบบการตรวจสอบสารไดออสคอรีนในกลอยก่อนออกจำหน่ายแก่ผู้บริโภค
ดังนั้นคนกินกลอยอย่างเราก็ต้องระวังตัวเองครับ โดยเลือกซื้อจากผู้ทำที่ล้างพิษกลอยเป็น และไว้ใจได้
- ไม่ควรกินกลอยในช่วงฤดูฝน และหันมากินในช่วงฤดูร้อนซึ่งจะปลอดภัยกว่า
- หากกินแล้วเกิดอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์ทันที
- ไม่ควรให้เด็กกินกลอยจะดีที่สุด
เนื่องจากเด็กมีน้ำหนักตัวน้อย สารพิษกระจายตัวในร่ายกายเร็วกว่าผู้ใหญ่
หมายเหตุ
- ทุกเรื่องราวของ vcanfit ท่านสามารถแขร์ได้เลย ไม่มีหวง จะได้เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพสำหรับผู้คนในวงกว้าง ครับ
- สงสัยเรื่องอาหาร/สุขภาพ อยากได้คำตอบแบบสั้นๆ ง่ายๆ ที่อิงหลักวิชาการ ลองเข้าGoogle พิมพ์ vcanfit เว้นวรรค แล้วพิมพ์ คำที่ต้องการหา (เป็นภาษาไทยหรืออังกฤษก็ได้) จากนั้นกด ENTER ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น