vcanfit สุขภาพดีได้..ง่ายจัง: หอยนางรม : Oyster

หอยนางรมดิบ กินกับยอดกระถิน หอมเจียว น้ำพริกเผา มะนาวบีบ มันเข้ากันราวสวรรค์สร้างมาให้ คนไม่ค่อยกินของดิบอย่างผมยังไม่พลาดเลยครับ ทั้งๆที่รู้ว่ามีความเสี่ยง ก็มันอร่อยนี่นา แล้วก็ไม่ได้กินบ่อยๆ มาดูเรื่องราวของหอยนางรมกันครับ

หอยนางรม

เป็นหอยทะเล กาบ 2 ฝา
กาบหนาแข็งสีน้ำตาล หรือสีเทา กาบบนจะใหญ่และแบนกว่ากาบล่าง
กาบล่างที่มีลักษณะโค้งเว้า เป็นส่วนที่มีตัวหอยติดอยู่
ด้านที่มีเนื้อฝังอยู่จะยึดติดกับวัตถุแข็ง เช่น โขดหิน ไม้หลัก
หอยนางรมแบ่งเป็น ๒ พวก คือ พันธุ์เล็ก เรียกว่า หอยเจาะ หรือ หอยปากจีบ ส่วน พันธุ์ใหญ่เรียกว่า หอยตะโกรม
รสชาติของหอยนางรมขึ้นอยู่กับแหล่งอาศัย(แหล่งเพาะเลี้ยง)มากกว่าสายพันธุ์
พบโดยทั่วไปตามบริเวณน้ำตื้นชายฝั่งทะเล ปากแม่น้ำ ใน จ.สุราษฎร์ธานี
แหล่งที่เลี้ยงหอยนางรมกันมาก คือ ที่ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี เป็นหอยนางรมที่มีขนาดใหญ่ จนถูกนำไปเป็นคำขวัญประจำจังหวัด
ประเทศอื่นๆ ก็มีหอยนางรมที่มีกลิ่นรสแตกต่างกันไป เกิดจากความแตกต่างในระดับความเค็มของน้ำทะเล อุณหภูมิ และคุณภาพของน้ำทะเล ครับ เช่น นิวซีแลนด์ แปซิฟิก ออยสเตอร์ (New Zealand Pacific Oyster),ทัสมาเนียน เนทีฟ แฟลต ออยสเตอร์ (Tasmanian Native Flat Oyster) ฯลฯ และก็มี Oyster Bar เสิร์ฟ หอยนางรมสดกันด้วยครับ ไม่ได้มีแต่คนไทยที่กินสดนะครับ

คุณค่าทางอาหาร

เป็นแหล่งของ วิตามิน A ,วิตามิน B1 B2 B3 ,วิตามิน C และ วิตามิน D
อุดมไปด้วย แร่ธาตุที่ร่างกายต้องการ เช่น ธาตุเหล็ก ทองแดง ไอโอดีน แมกนีเซียม แคลเซียม สังกะสี แมงกานีส และ ฟอสฟอรัส
หอยนางรมมี สังกะสี (Zinc) อยู่ในปริมาณสูง ซึ่ง สังกะสี มีบทบาทสำคัญในการผลิตฮอร์โมนเพศชายที่ชื่อ เทสโทสเตอโรน (Testosterone) ดังนั้นความเข้าใจที่ว่ากินหอยนางรมแล้วฟิต ปึ๋งปั๋ง ก็น่าจะมาจากเหตุนี้ละครับ
พบว่า ในหอยนางรมน้ำหนัก 100 กรัม (ประมาณ 8-10 ตัว) จะมีโคเลสเตอรอล 231 มิลลิกรัม

ข้อควรระวัง

ปริมาณโคเลสเตอรอลในหอยนางรม 8-10 ตัว คือ 231มิลลิกรัม ก็นับว่าสูงอยู่เหมือนกันครับ เนื่องจากร่างกายของคนเราต้องการโคเลสเตอรอลไม่เกินวันละ 300 มิลลิกรัม เท่านั้น
แต่ถ้าเทียบแล้ว การกินหอยนางรม 8-10 ตัว จะได้รับโคเลสเตอรอล ใกล้เคียงกับการกินไข่ไก่ 1 ฟอง ซึ่งมีประมาณ 213 มิลลิกรัม หรือ กินปลาหมึก น้ำหนัก 100 กรัม ซึ่งจะมีโคเลสเตอรอลสูงประมาณ 250 มิลลิกรัม
ดังนั้น ถ้าให้ดีก็อย่ากินเยอะไงครับ ยิ่งรู้ตัวว่าไขมันในเลือดสูง ก็เอาแค่ชิมๆ พอครับ
ที่น่าเป็นห่วง คือ เรื่อง เชื้อโรคที่อาจปนมาในหอยนางรมซึ่งเราชอบกินดิบๆ มากกว่าครับ เนื่องจาก หอยนางรมสด อาจทำให้เกิด อาหารเป็นพิษ (Food Poisoning) จากเชื้อแบคทีเรียในกลุ่มวิบริโอ (Vibrio) ซึ่งสายพันธุ์ที่จะเป็นอันตรายได้ คือ Vibrio vulnificus ,Vibrio cholerae และ Vibrio parahaemolyticus
โดยปกติเชื้อวิบริโอ มักจะอาศัยอยู่ในน้ำทะเลที่อบอุ่น ซึ่งในประเทศตะวันตกมักจะพบผู้ป่วยติดเชื้อนี้ในฤดูร้อน แต่ในประเทศเขตร้อนอย่างไทยเรา สามารถพบโรคติดเชื้อ วิบริโอ ได้ตลอดปี
ในคนที่แข็งแรงดี เมื่อกินอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อนี้จะทำให้มีอาการในระบบทางเดินอาหาร เช่น ท้องเสีย มีไข้ ส่วนในคนที่ร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่ำ อาจเกิด การติดเชื้อในกระแสเลือด (Bacteremia) ซึ่งจะมีอาการรุนแรงมากจนถึงกับเสียชีวิตได้
อย. มักประกาศเตือน ผู้นิยมกินหอยนางรมสด ให้ระวังอันตรายจากเชื้อกลุ่มวิบริโอ ซึ่งจะทำให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร มีอาการท้องเสีย และมีไข้สูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้สูงอายุ ผู้ที่เป็นโรคตับ โรคไต โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคเอดส์ และผู้ที่ร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่ำ ควรหลีกเลี่ยงการกินหอยนางรมสด ครับ

ส่งท้าย

เข้าใจนะครับว่า ความอร่อยไม่เข้าใครออกใคร แต่ก็ควรคำนึงถึงความเสี่ยงที่เกิดขึ้นบ้าง โดยเฉพาะคนที่มีไขมันในเลือดสูง และคนที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ หรือ ร่างกายไม่แข็งแรงพอที่จะติดเชื้อต่างๆ ได้ ปลอดภัยไว้ก่อนดีที่สุด ครับ