โบราณว่าบ้านไหน "มีแมวมาหา มีหมามาสู่" ถือว่าดี เป็นบ้านที่อยู่แล้วร่มเย็นเป็นสุข สัตว์โลกอื่นๆ เขารับรู้ได้ด้วยสัญชาติญาณ บ้านผมไม่ได้เลี้ยงสัตว์ แต่ก็มีทั้งพี่หมา 1 น้องแมว 3 ลอดประตูรั้วเข้ามาเดินเล่น กินน้ำในอ่างบัว พร้อมมอบปุ๋ยบำรุงดินไว้ให้เป็นที่ระลึกนิดๆหน่อยๆ พอน่ารักน่าชัง แต่ที่ไม่ค่อยรู้สึกแฮปปี้ เห็นจะเป็นเจ้ามดตัวน้อยตัวนิดนี่แหละครับ
พลังของมด
- ขึ้นอาหาร ถังขยะ บางทีเจาะถุงขนมที่เป็นพลาสติกได้ด้วย
- กัดเจ็บ บวมตุ่ยอีกต่างหาก ยิ่งบ้านที่มีเด็ก คนชรา และสัตว์เลี้ยง ต้องระวังเป็นพิเศษ
- กวาดไล่แล้วก็กลับมาได้อีก
- จะฉีดสเปรย์ฆ่าก็สงสาร ไม่อยากบาปกรรม เพราะนอกจากมดงานแล้วยังมีการขนไข่มด เดินเรียงกันมาเป็นแถวอีกด้วย
- การใช้สเปรย์พ่นฆ่ามดในครัว หรือในตัวบ้าน ไม่เหมาะแน่ๆ เนื่องจากมันมีพิษ ถ้าไปโดนอาหาร หรือ ภาชนะ เราก็จะโดนพิษไปด้วย ถึงคนจะทนพิษได้มากกว่ามดเพราะตัวใหญ่กว่า แต่คนที่แพ้ยาฆ่าแมลงแบบผม แค่ดมนิดเดียวก็ออกอาการหัวใจอ่อนระทวยแล้วครับ
ไล่มดแบบไม่ฆ่า
ในเมื่ออยู่ร่วมกันไม่ได้ แต่ไม่อยากฆ่า หรือ ไม่อยากใช้ยาฆ่าแมลง ก็ต้องใช้วิธีไล่ดังนี้ครับวิธีที่ 1 : สเปรย์น้ำส้มสายชู
- ผสม น้ำส้มสายชู กับ น้ำ ในปริมาตรที่เท่ากัน (1:1)
- ใส่ลงในขวดสเปรย์
- ฉีดพ่นบริเวณที่มดเดินกันเป็นประจำ เช่น ตามพื้น ผนัง ขอบประตู ขอบหน้าต่าง ขาโต๊ะ มดจะสับสนกับเส้นทาง เราก็กวาดมดออกไป ทำ 2-3 ครั้ง มดจะไม่มากวนอีกครับ
วิธีที่ 2 : ฟองน้ำชุบน้ำส้มสายชู
- นำฟองน้ำไปชุบน้ำ บิดพอหมาดๆ เช็ดตามทางเดินของมด (ถ้าไม่อยากบาปให้กวาดมดไปก่อน และ จำทางเดินของมันเอาไว้)
- นำฟองน้ำไปชุบน้ำส้มสายชู เช็ดซ้ำลงไปอีกที เพื่อรบกวนการนำทางด้วยสารเคมีของมด
- ถ้ามดย้ายทางเดินใหม่ เราก็ตามไปเช็ดใหม่ ทำ 2-3 ครั้ง มดจะหมดไปครับ
วิธีที่ 3 : เปลือกไข่ย่างไฟ
- นำเปลือกไข่ไปล้างให้สะอาด (อย่าให้มีเนื้อไข่ติด) ผึ่งแดดให้แห้ง และนำมาย่างไฟ
- นำไปวางบริเวณที่มดเดินผ่าน ก็จะสามารถไล่มดออกจากบริเวณนั้นได้ครับ
ส่งท้าย
การไล่มด ต้องทำควบคู่กับ การป้องกันมด ด้วย โดย
- ดูแลรักษาความสะอาด ในห้องครัว และตัวบ้าน
- เก็บขยะ หรือ เศษอาหาร อย่างสม่ำเสมอทุกวัน ไม่ควรทิ้งไว้ข้ามคืน ซึ่งจะล่อให้มดเข้ามาหาอาหารภายในบ้านเราได้ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น