อ้อยน้ำผึ้ง
มีคนให้ "อ้อยน้ำผึ้ง" มาลำนึงยาว 4 ศอก แต่ลำใหญ่เกือบเท่าแขนผม ให้เอามาปลูกบอกว่าหวานฉ่ำ ชานไม่เหนียว เคี้ยวง่าย ก่อนปลูกเลยต้องพิสูจน์ดูก่อนครับ
ลองชิมอ้อยน้ำผึ้ง
- ไม่พูดพล่ามทำเพลง ผมคว้ามีดมาปอกเลยครับ ตัดมายาว 2 คืบ จะได้ปอกง่ายหน่อย (คือ ขี้เกียจปอกนะแหละครับ)
- ผมปอกแบบเอาผิวเปลือกทิ้งไปเยอะเหมือนกันครับ ปอกติดเปลือกมันแข็ง มีดไม่ค่อยคม
- ปอกเปลือกแล้วควั่นเป็นชิ้นๆ แบบที่เขาขายกัน
- ลองชิมดู เคี้ยวง่าย หวานฉ่ำดีจริงๆ ครับ ขนาดดุ้นเบ้อเร่อเลยนะเนี่ย นึกว่าจะแข็งเคี้ยวยาก
แถมความรู้นิดนึง
อ้อยที่ปลูกขายกันในเมืองไทยเรามี 2 ประเภท ใหญ่ๆ ครับ คือ
1. อ้อยเคี้ยว (Chewing Cane)
- เป็นอ้อยที่มีเปลือกนิ่ม ชานนิ่ม
- ปลูกเพื่อหีบเอาน้ำอ้อยสำหรับบริโภคโดยตรง
หรือใช้สำหรับรับประทานสด
- มีความหวานปานกลางถึงค่อนข้างสูง
- อ้อยเคี้ยวที่นิยมปลูกกันมีหลายพันธุ์ คือ
- อ้อยสำลี ลำต้นสีเหลืองอมเขียว ชานนิ่มมาก ให้น้ำอ้อยสีสวย
- อ้อยพันธุ์มอริเชียส ลำต้นสีม่วงแดง ใช้สำหรับบริโภคโดยตรง นิยมปลูกในจังหวัดราชบุรี และนครปฐม
- อ้อยพันธุ์บาดิลา ลำต้นสีม่วงดำ ปล้องสั้นมาก และโตช้า เลยไม่ค่อยนิยมปลูกกัน
- อ้อยน้ำผึ้ง ลำต้นสีม่วงแดง รสหวาน ชานนิ่ม
- อ้อยขาไก่ ลำต้นเล็ก สีเหลือก รสหวาน ชานนิ่ม
2. อ้อยสำหรับทำน้ำตาล (Industrial Cane)
- ส่วนใหญ่เป็นอ้อยพันธุ์ลูกผสม
- มีเกิน 200 พันธุ์ และที่ปลูกกันมากๆ มีราว 20 พันธุ์
- อ้อย เป็นพืชที่มีประสิทธิภาพการสังเคราะห์แสงสูงมาก จากการศึกษาในฮาวายพบว่าพื้นที่ใบอ้อย 57 ตารางเซนติเมตร
สามารถสร้างน้ำตาล 1 ช้อนชาได้ภายในเวลา 36 ชั่วโมง
- น้ำตาลซูโครสจากใบจะถูกลำเลียงผ่านท่ออาหาร ไปเก็บไว้ที่ลำต้น
ส่งท้าย
- กินอ้อย(เคี้ยว) หรือน้ำอ้อย ให้พลังงาน เพราะมีน้ำตาลซูโครสเยอะ(น้ำตาลทราย)
- กินมากๆ ก็น้ำตาลมาก ไม่ดีต่อสุขภาพแน่นอน แถมยังเหนียวคอ คอแห้ง เสมหะเหนียวด้วยครับ
หมายเหตุ
- ทุกเรื่องราวของ vcanfit ท่านสามารถแขร์ได้เลย ไม่มีหวง จะได้เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพสำหรับผู้คนในวงกว้าง ครับ
- สงสัยเรื่องอาหาร/สุขภาพ อยากได้คำตอบแบบสั้นๆ ง่ายๆ ที่อิงหลักวิชาการ ลองเข้าGoogle พิมพ์ vcanfit เว้นวรรค แล้วพิมพ์ คำที่ต้องการหา (เป็นภาษาไทยหรืออังกฤษก็ได้) จากนั้นกด ENTER ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น