บัวบก..อย่ามองข้าม
บัวบก เป็นผักแนมลาบ น้ำตก ส้มตำ ที่ผมสังเกตุจากคนรอบตัวได้ว่าไม่ค่อยมีคนหยิบกินกันสักเท่าไร เหลือทุกที
บัวบก
- มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Centella asiatica ซึ่งบ่งบอกว่าอยู่ในแถบเอเชียแน่นอน
- ชื่ออื่นๆ ได้แก่ กะโต่
ผักแว่น ผักหนอก
- เป็นพืชล้มลุก มีขนาดเล็ก เลื้อยไปตามดิน
มีไหลที่จะเจริญขึ้นเป็นต้นใหม่ได้
ประโยชน์ทางยา
1. การแพทย์แผนไทย
- บัวบกมีรสเฝื่อนขมเย็น เป็นยาขับปัสสาวะ แก้ท้องเสีย แก้ลม
- เป็นยาบำรุงกำลัง แก้อ่อนเพลีย แก้เมื่อยล้า
- เป็นยาอายุวัฒนะ
2. คัมภีร์อายุรเวทของอินเดีย
- บัวบกทั้งต้นมีกลิ่นฉุน มีรสขมหวาน เป็นยาเย็น
- ใช้เป็นยาบำรุง เพื่อฟื้นฟูสุขภาพ
- ช่วยให้ความจำดีขึ้น
- เป็นยาเจริญอาหาร
- แก้ไข้ แก้อักเสบ
- บางแหล่งเชื่อว่า การกินใบบัวบกวันละ 1-2 ใบกับนมทุกวัน จะช่วยบำรุงประสาท ทำให้ความจำดีขึ้น จิตใจผ่องใส
3. การแพทย์จีน
- ให้บัวบก เป็นสมุนไพรของความเป็นหนุ่มสาว
4. การแพทย์สมัยใหม่
- พบว่าบัวบก มีฤทธิ์ในการบำรุงสมองเช่นเดียวกับแปะก๊วย โดยช่วยเพิ่มความสามารถในการจดจำ และการเรียนรู้
- ช่วยชะลออาการของโรคสมองเสื่อมในวัยชรา หรืออัลไซเมอร์
- ช่วยคลายเครียด
- ช่วยให้มีสมาธิในการทำงาน
- ช่วยต้านการเสื่อมของเซลล์สมอง
- ช่วยคงสภาพปริมาณสารสื่อประสาท อะเซทิลโคลีน (Acetylcholine) ซึ่งจำเป็นต่อการทำงานของสมอง
- ช่วยลดความดันเลือดจากการเพิ่มความยืดหยุ่นให้หลอดเลิอด และทำให้เลิอดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ
ได้ดีขึ้น
- มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ
- ช่วยเพิ่มการสร้างคอลลาเจน
ส่งท้าย
- กินบัวบกเป็นยาบำรุง
วันละ 2-3 ใบ ทุกวัน หรือ กินเป็นผักจิ้ม ครั้งละ 10-20 ใบ สัปดาห์ละครั้ง
ได้สบายๆ แต่ไม่ใช่กินวันละมากๆ ทุกวัน จะทำให้เสียสมดุลธาตุในร่างกายได้ เพราะบัวบกมีฤทธิ์เย็นจัด
ครับ
หมายเหตุ
- ทุกเรื่องราวของ vcanfit ท่านสามารถแขร์ได้เลย ไม่มีหวง จะได้เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพสำหรับผู้คนในวงกว้าง ครับ
- สงสัยเรื่องอาหาร/สุขภาพ อยากได้คำตอบแบบสั้นๆ ง่ายๆ ที่อิงหลักวิชาการ ลองเข้าGoogle พิมพ์ vcanfit เว้นวรรค แล้วพิมพ์ คำที่ต้องการหา (เป็นภาษาไทยหรืออังกฤษก็ได้) จากนั้นกด ENTER ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น