ผมเคยลงไว้ทีนึงแล้ว ค่อนข้างยาว จำยาก วันนี้เลยเอามาสรุปใหม่สั้นๆ ว่า ดูแมงดาอย่างไรถึงปลอดภัยครับ
กินไข่แมงดาให้ปลอดภัย
- แมงดาทะเล มี 2 ประเภท คือ แมงดาจาน และ แมงดาถ้วย (เหรา ,แมงดาไฟ)
- แมงดาจาน กินได้ แต่ แมงดาถ้วย กินไม่ได้
- ให้สังเกตที่ หาง หางแมงดาจาน จะเป็นรูปสามเหลี่ยมซึ่งด้านบนมีสัน และมีหนามเรียงกัน เป็นแถวคล้ายฟันเลื่อย --> กินได้
- หางแมงดาถ้วย ค่อนข้างกลม ไม่มีสัน และไม่มีหนาม --> กินไม่ได้
- ถ้าจะกินไข่แมงดา ต้องให้เห็นตัวด้วยจะได้ดูหาง
- ไข่แมงดา แบบที่ทำไว้แล้ว หรือ แกะใส่ถุงไว้แล้ว จะกินก็คงต้องเสี่ยงเอาละครับ แต่ผมไม่กล้า กลัวแจ้คพ็อตแตก
- สารพิษที่พบในไข่ของแมงดาถ้วย คือ เตโตรโดท็อกซิน (Tetrodotoxin) และ เซซิท็อกซิน (Sasitoxin) ซึ่ง เป็นพิษต่อระบบประสาทที่ควบคุมการหายใจ
- อาการเมื่อได้รับพิษ คือ ชารอบปาก ลิ้นชา เวียนหัว ปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน ชาตามปลายนิ้วมือและเท้า และมีอาการอ่อนแรงของปลายมือและเท้า กลืนลำบาก หนังตาตก หยุดหายใจ และถึงกับเสียชีวิตได้
- ถ้าพบว่าหลังจากที่กินแล้ว มีอาการชาที่ปาก หายใจไม่ออก รีบล้วงคอให้อาเจียนทันที แล้วรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด การใช้เครื่องช่วยหายใจเป็นการรักษาอาการเบื้องต้นเพื่อช่วยให้ผู้ป่วยหายใจได้ หลังจากนั้นก็จะรักษาตามอาการ
- ใน เด็กเล็กจะมีอาการรุนแรงมากกว่าผู้ใหญ่
- การต้ม ทอด ปิ้ง ไม่สามารถทำลายพิษได้ เนื่องจาก สารพิษสามารถทนความร้อนได้สูงมากครับ
ส่งท้าย
- ปัจจุบัน ยังไม่มียาแก้พิษจากแมงดาถ้วยโดยเฉพาะ นะครับ (ผมถึงได้กลัวมาก แบบว่า "ถ้าไม่ได้เห็นหางก็ยอมอดใจไม่กินดีกว่าครับ")
- ยำไข่แมงดา อร่อยจริงๆครับ
หมายเหตุ
- ทุกเรื่องราวของ vcanfit ท่านสามารถแขร์ได้เลย ไม่มีหวง จะได้เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพสำหรับผู้คนในวงกว้าง ครับ
- สงสัยเรื่องอาหาร/สุขภาพ อยากได้คำตอบแบบสั้นๆ ง่ายๆ ที่อิงหลักวิชาการ ลองเข้า Google พิมพ์ vcanfit เว้นวรรค แล้วพิมพ์ คำที่ต้องการหา (เป็นภาษาไทยหรืออังกฤษก็ได้) จากนั้นกด ENTER ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น