วันศุกร์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2559

กินไข่แมงดา

วันก่อนได้กินยำไข่แมงดา คนทำรู้ใจยกมาทั้งตัวทั้งหาง เพราะรู้ว่า ถ้าไม่เห็นหาง ผมไม่กินเด็ดขาดครับ
ผมเคยลงไว้ทีนึงแล้ว ค่อนข้างยาว จำยาก วันนี้เลยเอามาสรุปใหม่สั้นๆ ว่า ดูแมงดาอย่างไรถึงปลอดภัยครับ

กินไข่แมงดาให้ปลอดภัย

  • แมงดาทะเล มี 2 ประเภท คือ แมงดาจาน และ แมงดาถ้วย (เหรา ,แมงดาไฟ) 
  • แมงดาจาน กินได้ แต่ แมงดาถ้วย กินไม่ได้
  • ให้สังเกตที่ หาง หางแมงดาจาน จะเป็นรูปสามเหลี่ยมซึ่งด้านบนมีสัน และมีหนามเรียงกัน เป็นแถวคล้ายฟันเลื่อย --> กินได้
  • หางแมงดาถ้วย ค่อนข้างกลม ไม่มีสัน และไม่มีหนาม --> กินไม่ได้
  • ถ้าจะกินไข่แมงดา ต้องให้เห็นตัวด้วยจะได้ดูหาง
  • ไข่แมงดา แบบที่ทำไว้แล้ว หรือ แกะใส่ถุงไว้แล้ว จะกินก็คงต้องเสี่ยงเอาละครับ แต่ผมไม่กล้า กลัวแจ้คพ็อตแตก


  • สารพิษที่พบในไข่ของแมงดาถ้วย คือ เตโตรโดท็อกซิน (Tetrodotoxin) และ เซซิท็อกซิน (Sasitoxin) ซึ่ง เป็นพิษต่อระบบประสาทที่ควบคุมการหายใจ
  • อาการเมื่อได้รับพิษ คือ ชารอบปาก ลิ้นชา เวียนหัว ปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน ชาตามปลายนิ้วมือและเท้า และมีอาการอ่อนแรงของปลายมือและเท้า กลืนลำบาก หนังตาตก หยุดหายใจ และถึงกับเสียชีวิตได้
  • ถ้าพบว่าหลังจากที่กินแล้ว มีอาการชาที่ปาก หายใจไม่ออก รีบล้วงคอให้อาเจียนทันที แล้วรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด การใช้เครื่องช่วยหายใจเป็นการรักษาอาการเบื้องต้นเพื่อช่วยให้ผู้ป่วยหายใจได้ หลังจากนั้นก็จะรักษาตามอาการ
  • ใน เด็กเล็กจะมีอาการรุนแรงมากกว่าผู้ใหญ่
  • การต้ม ทอด ปิ้ง ไม่สามารถทำลายพิษได้ เนื่องจาก สารพิษสามารถทนความร้อนได้สูงมากครับ

ส่งท้าย

  • ปัจจุบัน ยังไม่มียาแก้พิษจากแมงดาถ้วยโดยเฉพาะ นะครับ (ผมถึงได้กลัวมาก แบบว่า "ถ้าไม่ได้เห็นหางก็ยอมอดใจไม่กินดีกว่าครับ")
  • ยำไข่แมงดา อร่อยจริงๆครับ

หมายเหตุ

  • ทุกเรื่องราวของ vcanfit ท่านสามารถแขร์ได้เลย ไม่มีหวง จะได้เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพสำหรับผู้คนในวงกว้าง ครับ
  • สงสัยเรื่องอาหาร/สุขภาพ อยากได้คำตอบแบบสั้นๆ ง่ายๆ ที่อิงหลักวิชาการ ลองเข้า Google พิมพ์ vcanfit  เว้นวรรค แล้วพิมพ์ คำที่ต้องการหา (เป็นภาษาไทยหรืออังกฤษก็ได้) จากนั้นกด ENTER ครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น