เป็นไข้
- หมายถึง การที่อุณหภูมิกายเพิ่มสูงกว่าปกติ
- อุณหภูมิที่ถือว่าเป็นไข้หรือมีไข้โดยทั่วไปเมื่อวัดด้วยการอมปรอทวัดไข้ คือ "สูงมากกว่า 37.5 องศาเซลเซียส"
- ถ้าสูงไม่เกิน 38 องศาเซลเซียส เรียกว่า “ไข้ต่ำ (Low grade fever)”
- ถ้าสูงเกิน 38 องศาเซลเซียส เรียกว่า “ไข้สูง (High grade fever)”
- ถ้าสูงเกิน 41.5 องศาเซลเซียส เรียกว่า “ไข้สูงเกิน (Hyperpyrexia)” ซึ่งจัดว่าอันตรายที่สุด มักเกิดจากการติดเชื้อในกระแสโลหิต หรือมีเลือดออกในสมอง
- เวลามีไข้ "ไม่จำเป็นว่าทุกส่วนของร่างกายจะต้องร้อนเท่ากันหมด" อาจร้อนที่ศีรษะ ลำตัว และแขนขา แต่ฝ่ามือฝ่าเท้าอาจเย็นก็เป็นได้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอย่างที่เชื่อกันมา
สาเหตุของไข้ มีมากมาย เช่น
1. ไข้หวัดธรรมดา
- มีไข้ จาม คัดจมูก น้ำมูกไหล ไอ
- อาการไข้จะมีอยู่ ราว 3-4 วัน ก็หายไปถ้าไม่มีภาวะแทรกซ้อน เช่น หูอักเสบ ปอดบวม
2. ไข้หวัดใหญ่
- มีไข้ ปวดเมื่อยแขนขา ปวดเบ้าตา
- ไข้อาจสูงถึง 40 องศาเซลเซียสได้
- อาการไข้ปรากฏอยู่ 3-5 วัน และหายถ้าไม่มีภาวะแทรกซ้อน
3. ปอดอักเสบ (ปอดบวม)
- มักจะมีอาการของไข้หวัดนำมาก่อน 2-3 วัน ต่อมามีอาการไข้สูงขึ้น ไอมากขึ้น และหายใจเร็ว และ หอบ (สังเกตุดู รูจมูกบาน ช่องซี่โครงบุ๋ม)
- มักจะเบื่ออาหาร กินไม่ได้ จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาลเพื่อให้น้ำเกลือ และอาจต้องให้ออกซิเจนด้วย
4. ไข้เลือดออก
- มีไข้ 3-4 วัน ร่วมกับอาการซึม หน้าแดง เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ปวดใต้ชายโครงข้างขวา
- อาจมีอาเจียนเป็นเลือด หรือถ่ายอุจาระสีดำ และ มีอาการช๊อคได้
5. ไข้ไทฟอยด์
- มีไข้ ซึม ถ่ายอุจจาระเหลว หรือท้องผูก
- หากไม่รักษาไข้จะปรากฏอยู่นาน 3 สัปดาห์ และมีโรคแทรกซ้อนทางลำไส้ สมอง และอื่นๆ
ยาลดไข้
- เป็นเพียงยาบรรเทาอาการไข้ ไม่ได้ไปรักษาสาเหตุของการเกิดไข้
- ยาที่ใช้กันโดยทั่วไป คือ "ยาพาราเซตามอล" โดยกินยา 1 ครั้ง(ขนาดตามอายุคนโต หรือตามน้ำหนักตัวเด็ก) จะออกฤทธิ์ลดไข้ได้นาน 4-6 ชั่วโมง
- ยาพาราเซตามอลนี้ ถ้ากินมากๆ หรือกินนานๆ ก็ไม่ดี เพราะยามีผลทำลายตับด้วย ควรกินเมื่อจำเป็น ไม่ใช่กินพร่ำเพรื่อ
ส่งท้าย
- ไข้หรือตัวร้อนเป็นเพียงอาการของโรคอย่างหนึ่งเท่านั้น "ไม่ต้องกังวลเรื่องไข้" แต่ "ควรกังวลเรื่องที่ว่าโรคอะไรที่ทำให้ท่านมีไข้"
- ถ้าอาการไข้มีสาเหตุมาจาก ไข้หวัดธรรมดา ดูแล้วไม่มีโรคแทรกซ้อนอื่น 3-4 วัน ก็หาย แต่ถ้าไม่ใช่ และ อาการไม่ดี ควรรีบไปพบแพทย์ ครับ
- ถ้าไข้สูง โดยเฉพาะในเด็ก และเด็กที่เคยมีประวัติชัก ต้องระวังการมีไข้เป็นพิเศษ โดยเช็ดตัวและให้ยาลดไข้
หมายเหตุ
- ทุกเรื่องราวของ vcanfit ท่านสามารถแขร์ได้เลย ไม่มีหวง จะได้เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพสำหรับผู้คนในวงกว้าง ครับ
- สงสัยเรื่องอาหาร/สุขภาพ อยากได้คำตอบแบบสั้นๆ ง่ายๆ ที่อิงหลักวิชาการ ลองเข้าGoogle พิมพ์ vcanfit เว้นวรรค แล้วพิมพ์ คำที่ต้องการหา (เป็นภาษาไทยหรืออังกฤษก็ได้) จากนั้นกด ENTER ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น