คนไทยสมัยก่อนใช้ยาหอมเป็นยาครอบจักรวาล แก้อาการเจ็บไข้ได้ป่วยกันอย่างแพร่หลาย แค่คนรุ่นปัจจุบันแทบไม่มีใครคิดจะใช้ยาหอมเลยครับ
ยาหอม
- เป็นยาแผนโบราณที่อยู่คู่คนไทยมากว่า 3 ศตวรรษ แล้วครับ
- ตำรับยาหอมเข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ใช้ในกลุ่มชนชั้นสูง เนื่องจากเป็นของหายาก ต้องนำเข้าเครื่องยาหลายชนิดมาจากต่างประเทศ
- สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์โปรดให้มีการกระจายของ "ยาโอสถสภา"(ยาสามัญประจำบ้าน) ไปยังหัวเมืองทั่วไป และมีการตั้งตำรับ "ยาตำราหลวง" ขึ้น ซึ่งยาหอม ก็เป็นหนึ่งในนั้น
- ยาหอม มักจะประกอบไปด้วยสมุนไพร หลายสิบชนิด เช่น เกสรบัวหลวง ขิง ดีปลี หญ้าฝรั่นสะค้าน ช้าพลู เจตมูลเพลิงแดง แห้วหมู เทียน กระวาน กานพลู จันทร์ เปราะหอม จันทน์เทศ จันทน์แดง จันทน์ขาว ดอกพิกุล บุนนาค สารภี พิมเสน ฯลฯ
สรรพคุณ
- ช่วยแก้อาการปวดมึนศีรษะ เป็นลม วิงเวียน หน้ามืด ตาลาย ใจสั่น
- ช่วยบำรุงลมประกัง (ลมที่คั่งหรือขัดที่รอบ ๆ กระบอกตา) นั่นคือ ช่วยรักษาอาการปวดจากไมเกรนได้
- ช่วยแก้อาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
- แก้นอนไม่หลับ
- แก้ความดันโลหิตต่ำ
- บำรุงประสาท
- บำรุงหัวใจ
- จากการวิจัยพบว่า ยาหอมมีฤทธิ์เพิ่มแรงหดตัวของหลอดเลือดแดงใหญ่ของหัวใจ ซึ่งจะช่วยเพิ่มแรงบีบตัวของหัวใจอย่างช้า ๆ และช่วยเพิ่มความดันโลหิตด้วย
- เมื่อมีการเพิ่มแรงบีบของหัวใจ ก็ทำให้การไหลเวียนโลหิตของหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมองและอวัยวะส่วนปลายของร่างกาย มีมากขึ้น
ส่งท้าย
- ปัจจุบันยาหอมมีเป็นแบบเม็ดด้วย แต่ผมว่าการกินแบบดั้งเดิม คือ ผสมน้ำให้ละลายแล้วจิบ นอกจากจะได้สรรพคุณแล้ว ยังช่วยให้ชุ่มคอ ชื่นใจมากกว่า ครับ
- ว่ากันว่ายาหอมจะเข้าไปปรับสมดุลธาตุในร่างกาย ดังนั้นยาหอมจึงไม่ได้เป็นแค่การรักษาแต่ถือเป็นวิธีดูแลสุขภาพด้วยครับ
หมายเหตุ
- ทุกเรื่องราวของ vcanfit ท่านสามารถแขร์ได้เลย ไม่มีหวง จะได้เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพสำหรับผู้คนในวงกว้าง ครับ
- สงสัยเรื่องอาหาร/สุขภาพ อยากได้คำตอบแบบสั้นๆ ง่ายๆ ที่อิงหลักวิชาการ ลองเข้าGoogle พิมพ์ vcanfit เว้นวรรค แล้วพิมพ์ คำที่ต้องการหา (เป็นภาษาไทยหรืออังกฤษก็ได้) จากนั้นกด ENTER ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น