ท่านชาย หรือท่านที่มีญาติพี่น้องเป็นชาย(ชายแท้ ไม่แท้ รวมหมด) น่าจะสนใจมะเขือเทศเป็นพิเศษเพราะชายจะมีต่อมลูกหมาก ที่ผู้หญิงไม่มี และลูกหมากคน กับลูกหมากรถยนต์ เวลาชำรุดแล้ว ก่อปัญหาได้มากมายเหมือนกันครับ
มะเขือเทศ
- มะเขือเทศ มีสารสำคัญตัวหนึ่งชื่อว่า ไลโคปีน(Lycopene) ซึ่งน่าสนใจมาก เพราะมีรายงานว่าสามารถลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งในอวัยวะต่างๆได้ ที่ชัดเจน คือ มะเร็งต่อมลูกหมาก (เพศชาย) และ มะเร็งปอด และที่ยังไม่ชัดเจนนักแต่คาดว่ามีประโยชน์ในการลดความเสี่ยงของมะเร็งตับอ่อน ลำไส้ใหญ่ และเต้านม
กินมะเขือเทศอย่างไรถึงจะลดความเสี่ยงมะเร็ง?
ที่เราๆ ท่านๆ สนใจกันก็คือ
กินมะขือเทศยังไงถึงจะได้ประโยชน์ในการลดความเสี่ยงมะเร็งที่ว่า สรุปได้แบบนี้ครับ
- กินมะเขือเทศปรุงสุกแล้ว(ผ่านความร้อน) ดีกว่ากินสด เพราะความร้อนจะทำให้แรงยึดของเจ้าไลโคปีนกับเนื้อเยื่อมะเขือเทศอ่อนลง จนหลุดออกจากเนื้อเยื่อมะเขือเทศมาเข้าสู่ระบบร่างกายเราได้มากกว่า
- ปริมาณ ไลโคปีน (หน่วยเป็น มิลลิกรัมต่อน้ำหนัก 100 กรัม) ในผลิตภัณฑ์มะเขือเทศชนิดต่างๆ เป็นดังนี้ครับ
มะเขือเทศสด = 0.88 - 4.2
มะเขือเทศปรุงสุก = 3.7
น้ำมะเขือเทศ = 5 - 11.6
ซอสมะเขือเทศ = 9.9 - 13.44
สรุป
- เมื่อดูจากปริมาณ ไลโคปีน แล้ว ก็ ควรกินพวกผลิตภัณฑ์มะเขือเทศชนิดต่างๆ ดีกว่ากินสด เช่น กินน้ำมะเขือเทศกระป๋อง (ถูกกว่าน้ำผลไม้อื่นด้วย) หรือ กินซอสมะเขือเทศมากขึ้น
ที่มาของบทความ/อ้างอิง
- บทความเผยแพร่ความรู้สู่ประชาชน โดย รศ.วิมล ศรีสุข ภาควิชาอาหารเคมี คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล http://www.pharmacy.mahidol.ac.th/knowledge/files/0001.pdf
หมายเหตุ
- ทุกเรื่องราวของ vcanfit ท่านสามารถแขร์ได้เลย ไม่มีหวง จะได้เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพสำหรับผู้คนในวงกว้าง ครับ
- สงสัยเรื่องอาหาร/สุขภาพ อยากได้คำตอบแบบสั้นๆ ง่ายๆ ที่อิงหลักวิชาการ ลองเข้า Google พิมพ์ vcanfit เว้นวรรค แล้วพิมพ์ คำที่ต้องการหา (เป็นภาษาไทยหรืออังกฤษก็ได้) จากนั้นกด ENTER ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น