วันจันทร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2559

ทุเรียน..มาแล้วจ้า

ผมเป็นสาวกทุเรียน ชนิดที่เรียกได้ว่าเหนียวแน่นมาก จนแทบคุมน้ำหนักตัวไม่ได้ ก็ปีนึงมีทุเรียนราคาไม่แพงให้กินก็ช่วงระยะเวลาไม่กี่เดือนนี้แค่นั้นนี่ครับ

ทุเรียน (Durian)

  • Durian มาจากคำว่า duri ในภาษามาเลย์ ที่แปลว่าหนาม
  •  เป็นพืชพื้นเมืองของประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย และบรูไน 
  • ทุเรียน มีสีเนื้อผล ตั้งแต่เหลือง ไปจนถึงแดง แตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ ซึ่งมีมากกว่า 30 สายพันธุ์ และมีอยู่เพียง 9 สายพันธุ์ ที่สามารถกินได้
  • ใน 9 สายพันธุ์ที่กินได้ มีเพียงสายพันธุ์เดียวเท่านั้น ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ชื่อยาวเรียกยาก อย่าไปสนใจเลยครับ สนแค่เจ้าสายพันธุ์นี้ยังแบ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยอีกมากมาย แต่ที่นิยมที่สุด คือ พันธุ์หมอนทอง ชะนี กระดุม และ ก้านยาว ครับ
  • จากหนังสือประวัติประเทศไทยสมัยอยุธยา ในช่วงแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ที่เขียนโดย  เมอสิเออ เดอลาลูแบ  ตีพิมพ์เมื่อปี พ.ศ. 2336  ตอนนึง มีการกล่าวถึงทุเรียนไว่ว่า ดูเรียน หรือ ที่ชาวสยาม เรียกว่า ทุนเรียน เป็นผลไม้ที่นิยมกันมากในแถบนี้จากหลักฐานดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าคนไทยเรารู้จักกินทุนเรียน หรือ ทุเรียน กันมาตั้งแต่สมัยอยุธยาโน่นแล้ว เชื่อว่ามีการนำเข้ามาจากทางภาคใต้
  • ทุเรียนบ้านเรา ในอดีต เคยมีผลผลิตออกสู่ตลาดได้ปีละ 4 เดือน คือ ช่วง พฤษภาคม มิถุนายน เป็นทุเรียนจากภาคตะวันออก แล้วต่อด้วย ทุเรียนจากภาคใต้ ในเดือน กรกฎาคม สิงหาคม
  • ปัจจุบันคนไทยเราเก่งครับ สามารถผลิตทุเรียนได้ถึง 9 เดือน เริ่มตั้งแต่ กุมภาพันธ์ ตุลาคม โดยมีทั้ง ทุเรียนก่อนฤดู ทุเรียนตามฤดู และ ทุเรียนล่า
  • ทุเรียนก่อนฤดู นั้น เขาใช้สารเร่งให้ทุเรียนออกดอกตั้งแต่เดือนสิงหาคม ก็จะสามารถเก็บขายได้ กุมภาพันธ์ - เมษายน ก่อนฤดูปกติ
  • ทุเรียนล่า ชื่อก็บอกอยู่ทนโท่แล้วครับ มาช้าแน่นอน เก็บได้ กรกฎาคม ตุลาคม ครับ

เทคนิคการเลือกทุเรียน(ให้ได้เนื้อหวานมัน น่ากิน)

  1. นับอายุ เช่น กระดุม 90-100 วัน  ชะนี หลงลับแล 100-110 วัน  หมอนทอง 115-120 วัน นับวันตั้งแต่ดอกบานจนถึงผลแก่พอตัดได้ วิธีนี้ชัวร์มาก มีข้อเสียนิดเดียว คือ ท่านคงต้องทำสวนทุเรียนเอง ถึงจะนับอายุได้ครับ
  2. ดูหนาม ทุเรียนแก่กำลังกิน ปลายหนามจะมีสีน้ำตาลเข้ม  ถ้าเอามือบีบปลายหนามเข้าหากันจะรู้สึกว่ามันเด้งได้ คล้ายมีสปริง แต่ถ้าหนามแข็งไม่มีสปริงเลยจะเป็นทุเรียนอ่อนครับ
  3. ดูก้านผล ก้านของทุเรียนแก่ จะมีลักษณะเป็นสปริง แม้จะเก็บไว้หลายวันก็ตาม ส่วนก้านผลทุเรียนอ่อน จะอ่อนน่วม ไม่มีสปริง
  4. ดูปลิง บริเวณก้านผล จะมีข้อต่ออยู่ เป็นส่วนของขั้วผล ที่เรียกกันว่า ปลิง หรือ ปากปลิง ทุเรียนแก่จัดที่ปากปลิงจะพองโต เห็นรอยชัดเจน ยิ่ง ถ้าเผยออ้าออก ก็ใช้ได้เลย (ถ้าเป็นหมอนทองอาจต้องรออีกนิดนึงครับถึงจะได้ที่)
  5. ดูร่องพู ทุเรียนแก่ร่องพูจะมีสีน้ำตาลปนเหลือง แต่ถ้ายังเป็นสีเขียวละก็ทุเรียนอ่อนครับ
  6. ฟังเสียงเคาะ หาไม้ยาวราวฟุตกว่าๆ เส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกินนิ้วก้อย มาเคาะเลือกทุเรียน ตอนเคาะก็ฟังดู ถ้าเสียง ดังหลวมๆ แปลว่า กำลังกิน แต่ถ้าเสียง ดังแน่น อึบทึบ จะเป็นทุเรียนอ่อน ครับ
  7. ให้แม่ค้าเลือก และปอกให้ดู โดยแจ้งความต้องการไปว่าเอาที่นิ่มขนาดไหน กินวันนี้เลยรึเปล่า เขาจะเจาะช่องสามเหลี่ยมให้ดูเนื้อ ถ้าตกลงเอาก็ให้เขาแกะใส่กล่องมาเลย สะดวกดีครับ

ส่งท้าย

  • คนเป็นเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง คงต้องทำใจ กินนิดนึงให้หายอยากก็พอแล้ว
  • คนปกติก็อย่าชะล่าใจไป กินเข้าไปมากๆ อาจแย่ได้ ทั้งแน่น ทั้งร้อนรุ่ม เพราะทุเรียน จัดเป็นของร้อนจริงๆ ทั้งจากปริมาณน้ำตาลที่สูงมาก บวกกับคอเลสเตอรอล และกำมะถัน กินแต่พอดี ยึดทางสายกลางไว้ครับ
  • ถ้าให้ดีท่านว่าให้กินคู่กับของเย็น คือ มังคุด ครับ เพื่อปรับสมดุลร้อนเย็น ส่วนของเย็นเจี๊ยบที่มีแอลกอฮอล์ ห้ามเด็ดขาด เพราะจัดเป็นของร้อนเช่นกัน กินคู่กัน เดี๋ยวจะหงายหลังตึง

หมายเหตุ

  • ทุกเรื่องราวของ vcanfit ท่านสามารถแขร์ได้เลย ไม่มีหวง จะได้เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพสำหรับผู้คนในวงกว้าง ครับ
  • สงสัยเรื่องอาหาร/สุขภาพ อยากได้คำตอบแบบสั้นๆ ง่ายๆ ที่อิงหลักวิชาการ ลองเข้า Google พิมพ์ vcanfit  เว้นวรรค แล้วพิมพ์ คำที่ต้องการหา (เป็นภาษาไทยหรืออังกฤษก็ได้) จากนั้นกด ENTER ครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น