เมื่อคืนผมได้ดูข่าวในพระราชสำนักที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ท่านเสด็จพระราชดำเนินไปตรวจงานส่งเสริมการปลูกชาน้ำมันที่ จ.เชียงราย ซึ่งเป็นโครงการใหญ่ที่จะมีประโยชน์มากมายทั้งผู้ปลูก ผู้แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ แถมยังทำให้ป่าอุดมสมบูรณ์ขึ้นด้วยครับ
ชาน้ำมัน..น้ำมันเมล็ดชา : Camellia oleifera
- “ชา” ที่เรากำลังพูดถึงนี้ ไม่ได้เป็นใบชาที่คุ้นเคยกัน แต่เป็น “เมล็ดชา” ที่ทางศูนย์วิจัยและพัฒนาชาน้ำมันและพืชน้ำมัน มูลนิธิชัยพัฒนา นำมาผลิตเป็น “น้ำมันเมล็ดชา” ครับ
- น้ำมันเมล็ดชาเปรียบได้กับ "น้ำมันมะกอก" ที่ใช้กันมากในประเทศตะวันตก จึงถูกขนานนามว่า “น้ำมันมะกอกของทวีปเอเชีย”
- สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระราชดำริให้มีการศึกษาและวิจัยการปลูกต้นชาน้ำมันบนดอยสูงของเชียงราย โดยผลผลิตที่ได้จะนำมาผลิตเป็นน้ำมันเมล็ดชาที่โรงงานชาน้ำมันของศูนย์วิจัยชาน้ำมันฯ ที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยพระองค์มีพระราชประสงค์ที่จะให้คนไทยได้บริโภคน้ำมันพืชที่ดี และมีคุณภาพสูง
- ชาน้ำมัน มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Camellia oleifera (ชาใบที่ใช้ชงดื่ม ที่มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Camellia sinensis ) เป็นพวกชาเหมือนกัน แต่คนละพันธุ์กันครับ
- ชาน้ำมัน เป็นไม้พุ่ม ต้นใหญ่ มีดอกสีขาวและเกสรสีเหลือง เมื่อแก่จะให้ผลสีน้ำตาลและเมื่อผลแตกออกจะมีเมล็ดอยู่ด้านใน ซึ่งเมล็ดส่วนนี้จะเป็นส่วนที่ให้น้ำมัน
- น้ำมันที่ได้จากเมล็ดชานั้นเป็นน้ำมันที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง สามารถนำใช้การปรุงอาหาร ใช้เป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอาง ได้ครับ
- ว่ากันว่าน้ำมันเมล็ดชา อยู่คู่ครัวหลวงของจักพรรดิจีนมากว่าพันปีแล้ว และอีกหลายประเทศทั่วโลกนิยมใช้น้ำมันเมล็ดชาแทนน้ำมันพืชทั่วไป
ประโยชน์
- ดีต่อสุขภาพ ใช้ประกอบอาหารทั้งผัด ทอด ปิ้ง ย่าง อบ และ ทำน้ำสลัด
- มีสารต้านอนุมูลอิสระ มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่จำเป็นต่อร่างกายสูงถึง 88% สามารถป้องกันโรคเบาหวาน ลดความดันในกระแสโลหิต ลดระดับคอเลสเตอรอล ได้
- ใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางค์หลายชนิด
- มีการวิจัยพบว่า โลชั่นที่ผสมน้ำมันเมล็ดชา 5% และ 10% ช่วยปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนขึ้น เพิ่มความชุ่มชื้น และความยืดหยุ่น รวมถึงลดความหยาบกร้าน และริ้วรอยบนผิวของอาสาสมัครได้ใน 8 สัปดาห์
- ในประเทศญี่ปุ่นมีการนำน้ำมันจากเมล็ดชาสายพันธุ์ญี่ปุ่น (Camellia japonica) มาใช้ในหมักผมมานานมากแล้ว ที่เรียกว่า “ทซึบากิ” (Tsubaki)
- น้ำมันเมล็ดชา มีจุดเกิดควันสูงถึง ๒๕๒ องศาเซลเซียส แปลว่าเราสามารถใช้ความร้อนสูงในการปรุงอาหารได้ โดยไม่ส่งผลให้คุณค่าที่ได้จากตัวน้ำมันเมล็ดชาสูญเสียไปแต่อย่างใด
ส่งท้าย
- น้ำมันเมล็ดชา มีประโยชน์มาก แม้จะเป็นของใหม่ในเมืองไทยเรา
- คนไทยเราโชคดีมากๆ ที่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ท่านทรงมีสายพระเนตรที่ยาวไกล ให้พัฒนาน้ำมันเมล็ดชาแบบครบวงจร ซึ่งต่อไปจะเป็นประโยชน์มหาศาลต่อประเทศไทยเรา ครับ
ขอขอบพระคุณข้อมูล และภาพประกอบ
- ศูนย์วิจัยและพัฒนาชาน้ำมันและพืชน้ำมัน มูลนิธิชัยพัฒนา
หมายเหตุ
- ทุกเรื่องราวของ vcanfit ท่านสามารถแขร์ได้เลย ไม่มีหวง จะได้เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพสำหรับผู้คนในวงกว้าง ครับ
- สงสัยเรื่องอาหาร/สุขภาพ อยากได้คำตอบแบบสั้นๆ ง่ายๆ ที่อิงหลักวิชาการ ลองเข้าGoogle พิมพ์ vcanfit เว้นวรรค แล้วพิมพ์ คำที่ต้องการหา (เป็นภาษาไทยหรืออังกฤษก็ได้) จากนั้นกด ENTER ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น