การทดลองในระดับเซลล์ และสัตว์ทดลอง ยังแทบไม่มีการศึกษาในมนุษย์ (ในตอนนั้น) ผมเลยมีข้อสงสัยสารพัด
เอาเป็นว่า ผมกินมะรุมเป็นอาหาร แบบที่บรรพบุรุษเราทำกันมาตลอดนั่นแหละครับ สบายใจดี
มะรุม : Moringa
- มีถิ่นกำเนิดใน อินเดีย ศรีลังกา เขตเอเชียไมเนอร์ และแอฟริกา
- เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางที่ปลูกง่าย เจริญได้ดีในดินทุกชนิด
- มะรุมถูกปลูกไว้ในบริเวณบ้านไทยมาแต่โบราณ เอาไว้กินยอด ดอก และ ฝักเขียว ซึ่งเรามักนิยมกินฝักมากกว่าส่วนอื่นๆ
- นิยมกินมะรุมในช่วงต้นหนาวซึ่งเป็นฤดูกาลของฝักมะรุม ที่จะหาได้ง่าย สดอร่อย
ประโยชน์
- ยอดมะรุม ใบอ่อน ช่อดอก เอามาลวกจิ้มน้ำพริก
- ฝักอ่อน ช่อดอกนำไปดองเก็บไว้กินกับน้ำพริก
- ฝักมะรุม นิยมนำมาทำแกงส้มคู่กับปลาช่อน โดยปอกเปลือกหั่นฝักมะรุมเป็นชิ้นยาวพอคำ
- ฝักมะรุม 100 กรัม ให้พลังงานต่อร่างกาย 32 แคลอรี่ มีเส้นใยอาหารถึง 1.2 กรัม มีฟอสฟอรัส แคลเซียม เหล็ก วิตามินเอ วิตามินบีหนึ่ง ไนอาซิน และ วิตามินซี
- ในทางยามีการทดลองในระดับเซลล์ และในสัตว์ทดลอง พบว่าสารสกัดมะรุมช่วยลดความดันโลหิต ต้านการเกิดเนื้องอก ลดระดับคอเลสเตอรอล ลดระดับน้ำตาล ต้านการอักเสบของทางเดินหายใจ ต้านออกซิเดชั่น และ ต้านการอักเสบของตับ
ส่งท้าย
- ไม่ว่างานวิจัยเรื่องฤทธิ์ทางยาของมะรุม จะทำให้เราได้ยาดีๆมาใช้ หรือ อาจสมหวังแค่ในสัตว์ทดลอง แต่รสชาติของแกงส้มมะรุม ก็ยังอร่อยยั่วน้ำลายเราเสมอครับ แค่ได้เส้นใยอาหารจากมะรุม ก็อร่อยคุ้มค่าแล้วครับ
หมายเหตุ
- ทุกเรื่องราวของ vcanfit ท่านสามารถแขร์ได้เลย ไม่มีหวง จะได้เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพสำหรับผู้คนในวงกว้าง ครับ
- สงสัยเรื่องอาหาร/สุขภาพ อยากได้คำตอบแบบสั้นๆ ง่ายๆ ที่อิงหลักวิชาการ ลองเข้าGoogle พิมพ์ vcanfit เว้นวรรค แล้วพิมพ์ คำที่ต้องการหา (เป็นภาษาไทยหรืออังกฤษก็ได้) จากนั้นกด ENTER ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น