วันอาทิตย์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2557

วันงดกินขนม : No sweets day


    บ้านเรามีวันสำคัญต่างๆ มากมาย เกิน 50 วัน ทั้งที่เป็นวันหยุดราชการ และไม่ใช่วันหยุดราชการ แม้แต่ตัวเราเองก็มีวันสำตัญของเรา อย่างน้อยก็วันคล้ายวันเกิดตัวเอง แต่ที่อยากนำเสนอวันนี้ เป็นวันสำคัญของผมเองครับ

วันงดกินขนม

ทำไมถึงต้องมี?


  • แต่ก่อน ผมเป็นคนชอบกินขนมต่างๆ มาก ไม่ว่าจะขนมไทย เบเกอรี่ ขนมกรุบกรอบแบบซอง ซึ่งผมเชื่ออย่างสนิทใจว่ามีคนเยอะมากที่เป็นเหมือนกัน ด้วยความหอม หวาน มัน อร่อย อันน่าเย้ายวนของขนมเหล่านั้น
  • ทุกวันนี้ แม้ผมจะควบคุมน้ำหนักได้แล้ว แต่ก็ยังมีรายการขนมแทรกอยู่ในแคลอรี่รวมที่ได้รับในแต่ละวันอยู่บ้าง แต่เป็นการชิมนิดๆหน่อยๆ เท่านั้นครับ
  • ผมนึกถึงสมัยก่อนที่ผมไม่ได้ลดและควบคุมน้ำหนักได้เหมือนเดี๋ยวนี้ ขนมสร้างปรากฏการณ์มห้ศรรรย์ให้ผมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นทำลายสถิติตัวเองไปได้เรื่อยๆ ขนาดเสื้อผ้าที่ต้องขยายตาม มีสิวขึ้น(แม้จะเลยวัยไปเยอะแล้ว) สมองมึนๆงงๆ รู้สึกไม่กระชุ่มกระชวย เดินขึ้นบันไดไปชั้น2 ก็เหนื่อยแล้ว ออกกำลังนิดหน่อยก็หมดแรง เหมือนร่างกายขาดพลังงาน ต้องรีบกินเติมเข้าไปอีก แล้วก็อ้วนขึ้นอีก เป็นวัฏจักร มีท่านใดเป็นแบบนี้บ้างครับ

มาลองอดขนมกันสักวันนึงครับ


  • ลองกำหนดให้วันใดวันหนึ่งในสัปดาห์ เป็นวันที่เราจะไม่แตะต้องขนมเลย ตั้งแต่ตื่นจนเข้านอน
  • กินอาหารทุกมื้อตามปกติ หรือไหนๆก็ให้เป็นวันพิเศษแล้ว ลองเพิ่มการกินผักสด ผลไม้(ไม่หวาน) แทนที่อาหารมัน แคลอรี่สูงทั้งหลายไปเลย
  • เวลาใดที่คิดอยากกินขนมขึ้นมา ให้ไปดื่มน้ำเปล่าแทน ยิ่งปากว่างอยากกินขนมมาก ก็ได้ดื่มน้ำมาก
  • เข้าวันรุ่งขึ้น หลังจากเข้าห้องน้ำแล้ว รับรองว่าท่านจะรู้สึกว่าตัวเบาขึ้น กระชุ่มกระชวย ผิวพรรณดีขึ้น และสมองโล่งสบายขึ้น อย่างแน่นอนครับ

ปิดท้าย


  • ลองทำดูนะครับ คนที่เสพติดความหวานมาก ครั้งแรกจะหงุดหงิด แต่พอผ่านไปได้ 1 ครั้ง ได้สัมผัสความโล่งโปร่งสบาย แล้วจะเริ่มติดใจ จากนั้น วันงดกินขนม ก็จะมีบ่อยขึ้นๆ จนเกิดความเคยชินในการไม่กินขนมไปเอง นอกจากโอกาสพิเศษเป็นบางครั้งบางคราวครับ
  • มาเลิกเป็น มนุษย์แช่น้ำตาล กันเถอะครับ ยังมีอะไรดีๆ อีกหลายอย่างในชีวิต ที่รอให้เรามีแรงไปทำครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น