สมองเริ่มมีพัฒนาการตั้งแต่เรายังเป็นทารกอยู่ในท้องแม่ จนอายุราว 30 ปี เซลล์สมองจะหยุดพัฒนา และจะค่อยๆตายลง จนเริ่มแสดงอาการสมองเสื่อมเมื่ออายุ 60 ปี ขึ้นไป มากน้อยแล้วแต่วิธีการดำรงชีวิต และปัจจัยแวดล้อมต่างๆ แต่ก็ยังพอมีวิธีชะลอการเสื่อมของสมองได้ครับ
สมองเสื่อม หรือ แค่ขี้ลืม ?
ขี้ลืม
- การหลงลืม จะเป็นชั่วครั้งชั่วคราว เรามักลืมเรื่องธรรมดาๆ เช่น ลืมกุญแจบ้าน ลืมปิดไฟ ลืมชื่อคนที่ไม่ได้ติดต่อกันบ่อยนัก ฯลฯ
สมองเสื่อม
- ถ้าเป็นสมองเสื่อม เช่น สมองเสื่อมจากโรคอัลไซเมอร์ จะมีอาการรุนแรง ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตเป็นอย่างมาก
- พฤติกรรมจะผิดแปลกไปจากเดิม เช่น ลืมวิธีแปรงฟัน ลืมวิธีหุงข้าว(ทั้งๆ ที่หุงข้าวมาเกือบทั้งชีวิต) เป็นต้น
- สมองเสื่อม เกิดจากหลายสาเหตุ เช่น โรคอัลไซเมอร์ โรคพาร์คินสัน โรคของหลอดเลือดในสมอง เนื้องอกในสมอง โรคตับเรื้อรัง พิษสุรา และจากความชรา
วิธีการยืดอายุสมอง
1. ออกกำลังสมอง
- นับเลขถอยหลัง เช่น 100 99 98 ......
- ลองเดินถอยหลัง แต่ให้ทำด้วยความระมัดระวังนะครับ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เพราะถ้าล้มไปอาจเป็นเรื่องใหญ่มากได้
- ฝึกบวกเลขทะเบียนรถ
- ถนัดมือขวาให้ใช้มือซ้ายแทนในการทำกิจกรรมต่างๆ เช่น เขียนหนังสือ วาดรูป
- คนที่ทำงานด้านตัวเลข การวางแผน ตำนวณ พอว่างก็มาทำงานอดิเรกด้านศิลปะ เช่น วาดรูป ทำงานฝีมือ บ้างจะได้ใช้สมองสองซีกให้สมดุลกัน
- คนที่ทำงานด้านศิลปะอยู่แล้ว พอว่างก็ลองเปลี่ยนมาเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ดูบ้าง หรือไม่ก็ต่อจิ๊กซอร์
- ลองปิดตาทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ดู TV อาบน้ำ เพื่อเปลี่ยนความเคยชินในการรับข้อมูลจากประสาทสัมผัสเดิมๆ
- เปลี่ยนเส้นทางการเดินทาง เช่น ไปทำงานโดยใช้เส้นทางใหม่ เพื่อกระตุ้นสมองส่วนต่างๆ ให้สร้างแผนที่การเดินทางชุดใหม่ขึ้นในสมอง
- เปลี่ยนตำแหน่งสิ่งของต่างๆ บนโต๊ะทำงาน
- พูดคุยกับคนใหม่ๆ บ้าง หรือคุยกับผุ้คนเดิมๆ แต่คุยในเรื่องใหม่ๆ ที่ไม่เคยพูดคุยกัน ยิ่งมีการถกเถียงกันบ้างก็ยิ่งดีครับ
2. ออกกำลังกาย
- การออกกำลังกายทำให้เลือดสูบฉีดแรง และไปเลี้ยงสมองได้มากขึ้น ทำให้สมองได้รับอาหาร และออกซิเจน มากขี้น จะช่วยให้สมองทำงานได้ดีขึ้น
- การออกกำลังกาย ทำให้มีการหลั่งของสาร เอนโดรฟิน ซึ่งมีผลดีต่อสมอง
3. อาหารบำรุงสมอง
- สมองต้องการสารอาหารในปริมาณที่พอเหมาะ ดังนั้นการกินอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ในปริมาณที่พอเหมาะ ก็จะช่วยให้การทำงานของสมองเป็นไปด้วยดี เช่น กินพวกคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน อย่างช้าวกล้อง ธัญญพืช กินโปรตีนจากเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน กินไข่ ที่มีวิตามิน แร่ธาตุ และ เลซิทิน ช่วยบำรุงสมอง เป็นต้น
- สมองต้องการน้ำตาลเป็นพลังงาน ดังนั้นถ้าปริมาณน้ำตาลในเลือดค่ำ (น้อยกว่า 80 มิลลิกรัม/เดซิลิตร) สมองก็จะมึนงงเพราะขาดพลังงาน แต่ถ้าปริมาณน้ำตาลในเลือดสูงเกินไป สมองก็จะเหมือนถูกแช่อิ่มในน้ำตาล ทำให้เนื้อเยื่อในระบบประสาทเสียหาย จึงตวรจำกัดปริมาณ ขนมหวาน และน้ำอัดลม อย่ากินมากจนเกินไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น