น้ำผึ้งเป็น อ.ย. (เป็นอาหารและยา) มาตั้งแต่โบราณ ด้วยคุณค่าอันมากมาย สาธยายไม่หมด ทั้งในแง่อาหาร ยา และ เครื่องสำอางค์
ชาวกรีก กินน้ำผึ้งก่อนแข่งกีฬาโอลิมปิค เพื่อให้ไม่เมื่อยล้า ชาวอียิปต์ใช้น้ำผึ้งรักษาแผล และอีกหลายๆ ชาวทั่วโลก ขนานนามน้ำผึ้งว่าเป็น "ยาอายุวัฒนะ"
คุณค่าทางอาหาร
น้ำผึ้งอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่างๆ ดังนี้
- คาร์โบไฮเดรต 80-85% ได้แก่ น้ำตาลกลูโคส และฟลุกโตส ที่อยู่ในน้ำหวานของดอกไม้ที่ผึ้งไปหามา
- โปรตีนและกรดอะมิโน ที่ได้จากเกสรดอกไม้
- แร่ธาตุมากมาย เช่น ฟอสฟอรัส เหล็ก ทองแดง แมงกานีส แคลเซียม โพแทสเซียม ฯลฯ
- วิตามิน
- สารแอนตี้ออกซิแดนท์
- เอนไซม์ต่างๆ
ข้อควรระวัง
- คนเป็นโรคเบาหวาน ต้องระวังการใช้น้ำผึ้งเทียบเท่ากับน้ำตาลทรายเลยครับ
- คนอ้วน หรือต้องการลดน้ำหนัก ต้องไม่ลืมว่าน้ำผึ้งเป็นอาหารที่มีประโยชน์ก็จริง แต่ก็ประกอบด้วยน้ำตาลมากมาย ดังนั้น ห้ามกินเยอะ ครับ
- น้ำผึ้งอาจจะได้มาจากน้ำหวานของเกสรดอกไม้ที่เป็นพิษได้ เช่น น้ำหวานจากดอกของต้นตาตุ่มทะเล ซึ่งเป็นไม้พิษขึ้นอยู่แถวป่าชายเลน เมื่อกินเข้าไปจะทำให้ท้องเดิน
ลักษณะของน้ำผี้งที่ดี
- สีเหลืองใส หรือ น้ำตาลอ่อน (ขึ้นกับชนิดของดอกไม้ที่ผึ้งไปดูดน้ำหวาน)
- เป็นเนื้อเดียวกัน ไม่แยกชั้น
- ข้นหนืด
- ไม่มีตะกอน หรือสิ่งเจือปน(นอกจากเกสรดอกไม้ เมื่อเอามาส่องขยายดู)
- ไม่มีไขผึ้ง
- ไม่มีฟอง
- ไม่มีกลิ่นบูดเปรี้ยว
- มีน้ำปนอยู่น้อยกว่า 21%
- น้ำผึ้งที่ดีที่สุดคือ น้ำผึ้งเดือนห้า เนื่องจากเป็นช่วงหน้าแล้งซึ่งฝนยังไม่ตก น้ำผึ้งที่ได้จะเข้มข้น และมีความชื้นต่ำ
การดูน้ำผึ้งแท้-ไม่แท้
- หยดน้ำผึ้งลงในน้ำ ถ้าเป็น น้ำผึ้งแท้จะกองเป็นก้อนก่อน แล้วจึงค่อยๆ ละลาย
- หยดน้ำผึ้งลงบนกระดาษทิชชู ถ้าเป็นของปลอม หยดน้ำผึ้งจะขยายตัวเป็นวงกว้าง
- เมื่อใช้ไม้ จิ้มน้ำผึ้งขึ้นมา น้ำผึ้งจะหยดไหลเป็นสายบางๆ ไม่ขาดสาย และจะพับกองเป็นชั้นๆ ก่อนที่จะรวมเป็นเนื้อเดียวกัน
- หยดน้ำผึ้งที่นิ้ว และคลึงไปมา ถ้าเป็นน้ำผึ้งแท้จะไม่แห้ง จะรู้สึกว่าลื่นอยู่ตลอด แต่ถ้าเป็นน้ำผึ้งปลอมปน น้ำผึ้งจะตกผลึก และเหนียวเหนอะหนะ
เก็บไว้ได้นานแค่ไหน?
- ถ้าเก็บในขวดปิดสนิท และป้องกันแสง ป้องกันความร้อน จะเก็บได้เป็นปี
- ดูว่าถ้าสีเข้มขึ้นมากๆ ก็ไม่น่ากิน อาจเก่าจนคุณค่าลดลงไปมากครับ
- ควรกินให้หมดขวดภายในเวลา ไม่เกิน 1 ปี เพื่อให้ได้ประโยชน์จากสารอาหารต่างๆ ก่อนเสื่อมสภาพไปตามเวลา
น้ำผึ้งกับความงาม
- น้ำผึ้งมีสารที่ให้ความชุ่มชื้น ทำให้ผิวอ่อนนุ่ม
- มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันผิวจากการทำลายของรังสี UV
- ช่วยเสริมสร้างเซลล์ใหม่ให้แก่ผิวหนัง
- ใช้น้ำผึ้งทาผิวหน้า ทิ้งไว้ ๑๕ นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำ ผิวหน้าจะนุ่มเนียนขึ้น
น้ำผึ้งเป็นยา
- น้ำผึ้งผสมกับน้ำมะนาวชงกับน้ำอุ่นแล้วดื่ม จะช่วยขับเสมหะ และทำให้ชุ่มคอ
- ใช้ทาภายนอก ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย ทำให้แผลหายเร็วขึ้น
- กิน 1 ช้อนชา ก่อนนอน เป็นยาระบายอ่อนๆ แก้ท้องผูก
- กิน 2 - 3 ช้อนชาผสมกับน้ำอุ่นหรือน้ำผลไม้ แก้อ่อนเพลีย และเบื่ออาหาร ทำให้ร่างกายสดชื่น
- ชงน้ำผึ้งกับน้ำอุ่น กินก่อนนอน จะทำให้ผ่อนคลาย และหลับง่ายขึ้น
- กิน 1 ช้อนโต๊ะ ก่อนนอน เพื่อบำรุงร่างกาย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น