คาถาลดความอ้วน
- สูตรที่จำง่าย โดยคิดขึ้นมาเป็นคาถาประจำตัว เพื่อเอาไว้ท่องจำ เตือนตัวเอง ไม่ให้หลุดจากเส้นทางการลด และ ควบคุมน้ำหนัก ซึ่งก็ยังใช้ได้ดีจนถึงวันนี้ครับ
- คาถาที่ว่า คือ " กินน้อย ดื่มน้ำ ทำใจ กายบริหาร" ครับ
กินน้อย
- ก็คือ กินน้อย ครับ ไม่ได้กวน กำปั้นทุบดิน แต่หมายความอย่างนั้นจริงๆครับ เพราะคนเรา ถ้าจะลดน้ำหนัก ก็ต้องกินให้น้อยกว่าพลังงานที่ร่างกายใช้ในแต่ละวัน จะได้มีการเผาผลาญพวกไขมันส่วนเกินทั้งหลายออกมาใช้ น้ำหนักก็จะลดลงได้
- หรือแม้แต่เมื่อน้ำหนักลดลงมาจนถึงเป้าหมายแล้ว ต้องการจะรักษาระดับไว้ให้ยาวนานก็ต้องกินให้พอดีกับพลังงานที่ร่างกายใช้ ดังนั้นเรื่องการกินน้อยนี่สำคัญเป็นอันดับแรกๆ เลยนะครับ
- บางคนจะพอคะเนให้กับตัวเองได้ว่ากินแค่ไหนจึงจะลดน้ำหนักได้โดยไม่ตาลาย สมองหมุน
- บางคนที่สามารถใช้เทคโนโลยี่ช่วยก็ไม่ต้องลองผิดลองถูกมากนัก เช่น ใช้ตัวช่วยในบล้อคนี้ คำนวณค่าพลังงานที่ต้องใช้ในแต่ละวันของตัวเอง ลองกดตรงนี้ แล้วก็ไปป้อนข้อมูล มันจะคำนวณให้เสร็จว่าท่านต้องใช้พลังงานวันละเท่าไหร่ ก็นำผลไปกำหนดพลังงานที่ท่านควรรับจากอาหารต่อไป จะเอาให้น้อยลงมาก น้อย ก็แล้วแต่ครับ
- ที่สำคัญ อย่าลดน้ำหนักเร็วเกินกว่า สัปดาห์ละครึ่งกิโลกรัมนะครับ สุขภาพจะแย่ นอกจากต้องทำน้ำหนักเร่งด่วนจริงๆ แบบจะต้องแต่งชุดเจ้าสาวให้สวยสเลนเดอร์ แต่ก็ให้ระวังไว้นะครับ อาจสวยแต่อิดโรย ตาโหล เหมือนนักมวยที่ต้องรีดน้ำหนักให้ตรงรุ่น รีดมากๆ ได้ขี้นชกจริงก็ไม่มีแรง โดนน้อคเอาง่ายๆครับ
ดื่มน้ำ
- ดื่มน้ำเปล่า สะอาด จะเย็น จะอุ่น ก็ได้ครับ แม้จะมีข้อมูลว่าดื่มน้ำใส่น้ำแข็ง ร่างกายจะเผาแคลอรี่ได้เพิ่ม แต่ก็ไม่เท่าไหร่ครับ อย่าไปคิดกินน้ำจนพุงแตกเพื่อลดแคลอรี่เลย
- ดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้ว แต่ถ้าท่านเป็นโรคไตอยู่ต้องปรึกษาแพทย์ประจำของท่านก่อนนะครับ
- น้ำมีส่วนร่วมอยู่แทบทุกกระบวนการทำงานภายในร่างกายเรา โดยเฉพาะการย่อยอาหาร และเผาผลาญพลังงาน ถ้าอยากให้เผาผลาญดี ลดส่วนเกินได้ น้ำเป็นตัวช่วยที่ดีครับ
- น้ำยังช่วยชะล้าง ขับ สารพิษ สิ่งที่ร่างกายไม่พึงประสงค์ออกจากตัวเราด้วย สังเกตุดูสิครับ เวลาเหงื่อออก หรือปัสสาวะเสร็จจะรู้สึกตัวเบาสบาย มีความสุข
- สุดท้าย น้ำทำให้รู้สึกอิ่มได้ เอาไว้เวลาที่ยังลด ละ เลิก นิสัยกินเยอะไม่ได้ ก็อาศัยน้ำนี่ละครับ กินเข้าไป ที่เขาเรียกว่าเอาน้ำเย็นลูบท้อง นั่นละครับ
ทำใจ
- คือ ทำใจสบายๆ ไม่เครียด
- ทำไมความเครียดถึงไม่ดี ? ตอบ ก็เพราะความเครียดจะทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมน คอร์ติโซล (Cortisol) ออกมา ไอ้เจ้าคอร์ติโซล จะไปสั่งเซลล์ไขมันในช่องท้องให้สร้างไขมันสะสมเพิ่มขึ้นเพื่อเก็บพลังงานไว้ต่อสู้ เพราะร่างกายเราจะตีความหมายของความเครียดว่าเป็นภาวะคับขัน ต้องต่อสู้เอาชีวิตรอด เป็นกลไกธรรมชาติในการปกป้องตนเอง ก็เลยทำให้ไขมันแน่นพุง ยิ่งเครียดก็ยิ่งอ้วนครับ
- พอเราเครียด คอร์ติโซลหลั่ง จะมีผลอีกอย่าง คือ เกิดความรู้สึกอยากอาหารโดยเฉพาะอาหารที่เน้นแคลอรีและไขมัน และเราก็จะกินแก้เครียด จนกระทั่งเราสะสมไขมันได้เพียบ ตามคำสั่งของคอร์ติโซล จะเห็นได้ว่าถ้าไม่เครียดก็ไม่สะสมไขมัน ไม่อ้วน ดังนั้นถ้าไม่อยากอ้วนก็ต้องเป็นคนอารมณ์ดี มีจิตใจเบิกบาน ไม่เครียด ครับ
กายบริหาร
- มนุษย์ในปัจจุบัน มีเครื่องทุ่นแรงทุกอย่างไม่ว่าจะทำกิจกรรมอะไร ที่เคยต้องออกแรง เดิน วิ่งหนีสัตว์ร้าย แบกหามข้าวของ เหมือนในอดีต ก็ไม่มีภาพนั้นอีกแล้ว
- ถ้าจะให้ร่างกายแข็งแรง และมีอัตราการเผาผลาญพลังงานที่มากขึ้น เราก็ต้องช่วยตัวเราเองในการทำกิจกรรมที่มนุษย์ดึกดำบรรพ์(บรรพบุรุษเรา)ไม่เคยรู้จัก นั่นคือ การออกกำลังกาย ครับ
- ไม่ได้จะให้ท่านเป็นนักออกกำลังกายตัวยง หรือทำกันแบบทุ่มเทมากมาย ค่อยๆ ลองออกกำลังตั้งแต่ง่ายๆ เช่น แกว่งแขน เดินเร็ว เดินขึ้นบันได ขยับเนื้อตัวตามท่าบริหารร่างกายที่เคยเรียนมาในวิชาพลศึกษาก็ได้ครับ หรือท่านที่มีความพร้อมของร่างกายอยู่บ้างแล้วจะข้ามไป วิ่ง ขี่จักรยาน ว่ายนำ เต้นแอร์โรบิค ฯลฯ มีสารพัด ขอให้ทำเถอะครับ
- ใครที่ควรออกกำลังกาย? ตอบ ก็ทุกคนแหละครับ ไม่เว้นแม้แต่คนป่วยในโรงพยาบาล ถ้าไม่ถึงกับนอนแบบขยับไม่ได้ ยังควรออกกำลังเลยครับ จะออกกำลังมากน้อยก็สุดแล้วแต่สภาพร่างกาย และจิตใจท่านละครับ แต่ควรเริ่มเบาๆ ก่อน แล้วค่อยเพิ่มทีละนิด เพราะคนที่หักโหมช่วงแรกๆ มักจะทำได้ไม่กี่วันก็เลิกครับ เพราะร่างกายรับไม่ไหว
เล่ามายืดยาว ก็เพื่ออธิบายคาถาสั้นๆ " กินน้อย ดื่มน้ำ ทำใจ กายบริหาร " นี่ละครับ ทำได้ก็ไม่อ้วน แถมสุขภาพดีอีกต่างหาก
โพสต์ดีมันเป็นฉันจะแนะนำให้โพสต์นี้ไปยังเพื่อนของฉัน.
ตอบลบอาหารเสริมลดน้ำหนัก | ผลิตภัณฑ์ดูแลกระดูก