การสวดมนต์ นอกจากจะเป็นเรื่องทางศาสนา หรือจิตใจ แล้ว ยังส่งผลดีต่อสุขภาพด้วย
- การสวดมนต์บำบัด (Vibrational Therapy) คือ การใช้คุณสมบัติของคลื่น(เสียง)มาบำบัดความเจ็บป่วย โดยใช้หลักการทำให้เกิดคลื่นเสียงที่มีความสม่ำเสมอ เข้าไปกระตุ้นร่างกายให้เกิดการเยียวยา และคลื่นเสียงนี้สามารถเดินทางลึกเข้าไปในสมองได้
- เมื่อเราสวดมนต์ สมองจะได้รับการกระตุ้นด้วยคลื่นเสียงช้าๆ สม่ำเสมอ ภ้าสวดมนต์นาน 15 นาทีขึ้นไป จะทำให้ร่างกายหลั่งสารสื่อประสาทชื่อ ซีโรโทนิน (Serotonin) เพิ่มขึ้น ซึ่งจะ ช่วยควบคุมความหิว และ ควบคุมอารมณ์
- ซีโรโทนิน เป็นสารตั้งต้นในการสังเคราะห์สารสื่อประสาทอื่นๆ เช่น เมลาโทนิน (Melatonin) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยให้ นอนหลับ เพิ่มภูมิต้านทาน และ ทำให้เซลล์สดชื่นขึ้น
- การสวดมนต์เป็นเครื่องช่วยให้เกิดสมาธิ โดยจิตใจต้องจดจ่ออยู่กับเสียงสวด ให้ใจไม่ฟุ้งไปที่อื่นจึงเกิดสมาธิ
- วิธีการสวดมนต์บำบัด ควรปฏิบัติดังนี้
- ไม่ควรสวดมนต์หลังกินอาหารทันที ควรทิ้งช่วงให้ร่างกายผ่อนคลายก่อน
- ทำในสถานที่ซึ่งเงียบสงบ
- สวด บทสั้น ๆ 3-4 พยางค์ โดยใช้เวลาประมาณ 10-15 นาทีขึ้นไป จะทำให้ร่างกายหลั่งสารซีโรโทนิน
- สวดมนต์ด้วย บทยาวๆ ร่างกายจะรู้สึกผ่อนคลาย
- ขณะสวดมนต์ให้หลับตา สวดให้เกิดเสียงดังพอให้ตัวเองได้ยิน
- สวดมนต์เพื่อการบำบัดควรใช้บทไหนดี ? ตอบ เลือกตามความชอบได้เลยครับ เช่น อิติปิโส นะโม ตัสสะ หรือ สัพเพสัตตา ฯลฯ โดยเลือกท่อนใดท่อนหนึ่งแล้วสวดวนไปเรื่อยๆ
- การสวดมนต์บำบัด จะเกิดผลดีเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอในการปฏิบัติ ผมคิดเล่นๆ เองว่า ถ้าใครสักคนเริ่มคิดที่จะสวดมนต์ แสดงว่าเขาคนนั้นเริ่มรักและปรารถนาดีต่อตัวเองแล้ว ยังไงก็เกิดผลดีแน่นอน เพราะ "คิดดี นำมาสู่การ ทำดี และตามมาด้วยการ ได้ดี" ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น