วันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ถั่วแดงหลวง ถั่วแห่งความรัก : Red Kidney Bean


    ถั่วแดงหลวง ปรากฏตัวอยู่เสมอ ในรายการอาหารของคนที่ควบคุมน้ำหนัก อาหารแบบชีวจิต และอาหารเพื่อสุขภาพทั้งหลาย เลยอยากให้พวกเรารู้จักถั่วแดงหลวงกันให้มากขึ้นครับ

ที่มาของชื่อ ถั่วแดงหลวง

  • ในปี พ.ศ.2512 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเสด็จประพาสบนดอย พระองค์ทรงทอดพระเนตรเห็น การปลูกฝิ่น และการทำไร่เลื่อนลอยของชาวเขา จึงมีรับสั่งให้หาพืชมาปลูกทดแทน โดยหาวิธีการปลูกที่ดีและไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม 
  • หม่อมเจ้า ภีศเดช รัศนี ซึ่งตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไปถวายงานครั้งนั้นได้เสนอว่าควรจะ ให้ชาวเขาทดลองปลูก Red Kidney Bean ดู 
  • ภายหลังจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพันธุ์ถั่ว Red Kidney Bean ซึ่งสั่งมาจากรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เพื่อให้ชาวเขาได้ปลูก ปรากฏว่าได้ผลดีมาก
  • ต่อมาได้มีกระบวนการวางแผนด้านการตลาดของถั่ว  Red Kidney Bean โดยเริ่มต้นจากการตั้งชื่อถั่ว ซึ่งปรากฏในคำกล่าวเปิดงานของหม่อมเจ้า ภีศเดช  รัชนี ในพิธีเปิดการสัมมนาวิชาการ เรื่อง การวิจัยและพัฒนาถั่วที่สูง เมื่อ  2 พ.ย. 2533 ณ สำนักงานเกษตรภาคเหนือ  ดังใจความที่ว่า
     เริ่มต้นเราต้องรู้จักว่าถั่วนี้เรียกว่าถั่วอะไร ถ้าไม่รู้ชื่อถั่วใครจะไปซื้ออะไรถูก เราก็มานั่งพูดกันแบบที่เรียกว่า brain storming ใครคิดอะไรได้ก็พูดมาเพื่อจะตั้งชื่อถั่ว มีอาจารย์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ดร. วัฒนา ก็แปลว่า kidney แปลว่า ไต  red ก็แปลว่า แดง  จึงเสนอให้ตั้งชื่อว่า ถั่วไตแดง ผมในฐานะนักโฆษณา ก็บอกว่าถ้าตั้งชื่อเป็นแบบนี้คนได้ยินก็จะไม่ซื้อถั่วไปกินแน่ เราก็โต้กันไปโต้กันมา ในที่สุดเราก็บอกว่า ถั่วนี่มันเป็นถั่ว และมันเป็น pea หรือ bean มันเป็น bean เพราะ pea ต้องเมล็ดกลมๆ นี่มันเป็นเมล็ดยาวๆ ก็เป็น bean ก็บอกว่า bean และสีแดง ก็บอกว่าถั่วแดง ทีนี้เราก็บอกถั่วแดงถั่วแดงเฉยๆ ใช้ไม่ได้ เราก็คิดว่าจะอย่างไรดี ในที่สุดเราก็นึกขึ้นมาได้ว่า เมล็ดมันใหญ่ ทางเหนือเรียกว่า หลวง อะไรที่ใหญ่ เช่น เขาหลวง ถั่วแดง ก็เรียกว่าถั่วแดงหลวง และหลวงก็มีความหมายอีกอย่างคือ พระเจ้าอยู่หัวพระราชทานพันธุ์มา เราก็ตั้งชื่อได้  
  • จากข้อความดังกล่าวถั่วแดงที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานแก่ชาวเขา เพื่อใช้ปลูกทดแทนการปลูกฝิ่น จึงได้ชื่อว่า ถั่วแดงหลวง ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
  • เห็นไหมครับ ถั่วแดงหลวง เป็นถั่วแห่งความรัก ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรา มีต่อพสกนิกร ไม่ว่าจะเป็นใคร หรืออยู่ที่ใดก็ตาม พระองค์ท่านทรงคิด และทรงงานอย่างเป็นระบบ เพื่อความผาสุกของทุกคนอย่างยั่งยืนครับ

ประโยชน์จากถั่วแดงหลวง

  • เกษตรกรชาวเขาปลูกเป็นพืชรายได้ทดแทนการปลูกฝิ่นและการทำไร่เลื่อนลอย และยังได้ใช้เป็นแหล่งอาหารโปรตีนในครอบครัวอีกด้วย 
  • ถั่วแดงก็จัดว่าเป็นถั่วที่ให้โปรตีนสูง และให้ไขมันอิ่มตัวต่ำมาก 
  • ศจ.มาร์ก บริก (Prof. Mark Brick)  จากมหาวิทยาลัยโคโลราโด สหรัฐอเมริกา ได้ทำการศึกษาถึงการใช้ประโยชน์จากถั่วในการป้องกันโรค  มีความเห็นว่า การกินโปรตีนจากถั่วแดงร่วมกับถั่วหลากชนิดบ่อยครั้งแทนโปรตีนจากเนื้อสัตว์ จะทำให้น้ำหนักตัวลดลง พร้อมกับช่วยป้องกันปัญหาสุขภาพในระยะยาวได้ 
  • ถั่วแดงมี เส้นใยอาหาร สูงมาก โดยเป็น เส้นใยอาหารประเภทที่สามารถละลายน้ำได้ จึงช่วยดูดซับน้ำและพองตัวได้ดี ทำให้การย่อยและการดูดซึมสารอาหารช้าลง รู้สึกอิ่มนาน การกินจุบกินจิบลดลง  ส่งผลให้น้ำหนักตัวลดลงตามมาด้วย 
  • การกินถั่วแดง ช่วยในการขับถ่าย ป้องกันอาการท้องผูก และช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่  
  • การแพทย์แผนจีนถือว่า การกินถั่วแดงจะช่วยบำรุงหัวใจ ดังนั้นเราจึงเห็นถั่วแดงอยู่ในหลายเมนูของอาหารจีน สอดคล้องกับผลการศึกษาที่ว่า ในถั่วแดงมีสารต้านอนุมูลอิสระ กลุ่ม Polyphenolics ที่ช่วยป้องกันความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจได้

วิธีต้มถั่วแดงให้นิ่ม

  1. ล้างเมล็ดถั่วแดงให้สะอาด
  2. แช่ในน้ำร้อนหรือน้ำเย็นพอท่วม ทิ้งไว้ประมาณ 6-18 ชั่วโมง 
  3. นำมาต้มพร้อมกับ น้ำที่แช่เมล็ด* เยื่อหุ้มเมล็ดถั่วจะนิ่ม และสุกง่าย
     *การทิ้งน้ำที่แช่ไปจะทำให้สูญเสียสารอาหารต่าง ๆ ที่ละลายออกมาในน้ำ ทั้งวิตามิน และเกลือแร่ จึงควรนำน้ำที่แช่ถั่วมาประกอบอาหารด้วย

ขอขอบพระคุณข้อมูลจาก มูลนิธิโครงการหลวง 
http://www.royalprojectthailand.com/node/928

หมายเหตุ 


  • ทุกเรื่องราวของ vcanfit ท่านสามารถแขร์ได้เลย ไม่มีหวง จะได้เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพสำหรับผู้คนในวงกว้าง ครับ
  • สงสัยเรื่องอาหาร/สุขภาพ อยากได้คำตอบแบบสั้นๆ ง่ายๆ ที่อิงหลักวิชาการ ลองเข้า Google พิมพ์ vcanfit  เว้นวรรค แล้วพิมพ์ คำที่ต้องการหา (เป็นภาษาไทยหรืออังกฤษก็ได้) จากนั้นกด ENTER ครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น