วันนี้ผมมีเรื่องราวของสับปะรดพันธุ์ MD2 มาฝาก รับรองรสชาติอร่อยถูกใจทั้งคนที่ชอบกินสับปะรดอยู่แล้ว และคนที่ไม่ค่อยชอบกินเพราะรู้สึกว่ามันกัดปากด้วยครับ
สับปะรดพันธุ์ MD2
- เป็นสับปะรดที่พัฒนาขึ้นที่ฮาวาย สหรัฐอเมริกา
- ผลแก่จะเปลี่ยนจากผิวสีเขียวเป็นสีเหลืองทองทั้งผล สีสวยสะดุดตาผู้ซื้อเป็นอย่างมาก
- ลักษณะของใบพันธุ์ MD2 จะมีสีเขียวตลอดทั้งใบ (ใบของสับปะรดพันธุ์ปัตตาเวียจะมีเส้นสีม่วงตรงกลางใบ)
- คุณสมบัติที่โดดเด่น คือ มีรสหวาน มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว เนื้อมีสีเหลืองเข้ม เนื้อตัน แน่น ไม่เป็นโพรง
ซ้าย MD2 ขวา ปัตตาเวีย(ศรีราชา) |
- พบว่า เนื้อสับปะรดพันธุ์ MD2 มี วิตามินC สูงถึง 4 เท่า ของสับปะรดพันธุ์อื่น
- คุณสมบัติเด่นมากอีกอย่าง คือ เมื่อกินแล้วไม่กัดปาก ไม่กัดลิ้น
- เกษตรกรสามารถบังคับให้ต้นสับปะรดออกดอกได้ง่าย และมีอายุการเก็บเกี่ยวเร็วกว่าพันธุ์ปัตตาเวีย
- จุดเด่นอีกประการของสับปะรดพันธุ์ MD2 คือ สามารถส่งออกทางเรือได้โดยไม่เป็น “ไส้สีน้ำตาล” เมื่อเปรียบเทียบกับสับปะรดปัตตาเวีย
- ปัจจุบันสับปะรดพันธุ์ MD2 เป็นที่รู้จัก และกำลังเป็นที่ต้องการของตลาดเป็นอย่างมาก เนื่องจากลิขสิทธิ์คุ้มครองสายพันธุ์ได้หมดลงไปแล้ว ทำให้หลาย ๆ บริษัทกำลังเร่งขยายพันธุ์ MD2 เป็นการเร่งด่วนเพื่อแข่งขันทางการตลาด เนื่องจากตลาดให้การยอมรับและมีแนวโน้มความต้องการบริโภคสูงขึ้นมาก
ส่งท้าย
- สับปะรดเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ มีเอนไซม์ โบรมีเลน (Bromelain) ช่วยย่อยอาหารประเภทโปรตีน ดังนั้นการกินสับปะรดหลังมื้ออาหารที่มีเนื้อสัตว์ ก็เป็นสิ่งที่ดีครับ
- อย่าลืมว่าสับปะรดเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลอยู่พอสมควรเลยนะครับ ยิ่งพันธุ์ที่หวานมากๆ อย่าง MD2 ดังนั้นคนที่ควบคุมน้ำหนัก ก็ต้องควบคุมปริมาณการกินสับปะรดด้วยนะครับ ไม่ใช่เห็นเป็นผลไม้แล้วจะกินไม่อั้นได้
http://www.kehakaset.com/index.php/79-information/168-2012-08-15-02-47-31
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น