วันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2559

ตกขาว...แบบไหน?

"ตกขาว" เป็นเรื่องปกติหรือไม่ เช่นตกขาว(แต่สีเขียว) ตกขาวเป็นก้อนๆ มีกลิ่นเหม็น คันช่องคลอด ฯลฯคุณสุภาพสตรีทั้งหลาย มาดูกันครับ

ตกขาว(Leukorrhea)

  • คือ ของเหลว หรือกึ่งแข็งกึ่งเหลว ซึ่งออกมาจากช่องคลอด (ยกเว้นเลือด)
  • มักจะมีสีขาว หรือสีอื่นๆ เช่น เขียว เหลือง
  • บางทีจะเรียกกันว่า ระดูขาว เมนส์ขาว และ มุตกิจ 
  • มีทั้งปกติ และผิดปกติ สตรีไม่ว่าวัยไหน ก็มีโอกาสมีตกขาวได้ 
  • ผู้หญิงปกติ ตกขาวจะมีไม่มาก ไม่ออกมาจนเลอะเทอะข้างนอก (นอกจากคนท้อง จะมีมากกว่าธรรมดา)
  • แต่ ถ้ามีการติดเชื้อโรค จะเกิดการอักเสบ และมี "การตกขาวที่ผิดปกติ" ครับ

การตกขาวที่ผิดปกติ

  • ปริมาณของตกขาวมีมากขึ้น 
  • มีสี และกลิ่นผิดปกติ 
  • มีอาการคัน 
  • อาจปวดแสบปวดร้อนบริเวณปากช่องคลอด หรือบริเวณใกล้เคียง 
  • รู้สึกแสบขัดเวลาถ่ายปัสสาวะ
  • มีอาการเจ็บขณะร่วมเพศ
  • ส่วนมากจะเกิดกับสตรีที่ผ่านการมีเพศสัมพันธ์แล้ว 
  • อาจพบในสตรีที่หมดประจำเดือนแล้ว เนื่องจากเยื่อบุช่องคลอดบางลง มีความต้านทานต่อการติดเชื้อน้อยลง ทำให้เกิดการอักเสบได้ง่าย
  • ควรไปพบแพทย์ เพื่อตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุ จะได้แก้ตรงจุด และหายขาด ครับ

สาเหตุ

1. เกิดจากการติดเชื้อ

  • ถ้าเป็น เชื้อหนองใน(โกโนเรีย) หรือ เชื้อแบคทีเรียอื่นๆ ตกขาว มักเป็นหนอง 
  • ถ้าเป็น เชื้อพยาธิ(ทริโฆโมแนส) มักเป็นหนองสีเขียว มีกลิ่นเหม็น และมีฟองด้วย
  • ถ้าเป็น เชื้อรา ตกขาวจะมีลักษณะคล้ายนมที่ทารกแหวะออกมา หรือเป็นก้อนคล้ายแป้งเปียก ครับ

2. เกิดจากเราทำเอง

  • ปกติแล้ว ในช่องคลอดจะมีแบคทีเรีย กลุ่มดี (กลุ่มแลคโตแบซิลไล)  ซึ่งสร้างสภาวะกรดในช่องคลอด เพื่อควบคุม ไม่ให้แบคทีเรีย กลุ่มไม่ดี(กลุ่มที่ไม่ใช้ออกซิเจน) เพิ่มจำนวนขึ้น  
  • ภาวะใดก็ตามที่ทำให้แบคทีเรีย "กลุ่มไม่ดี" เพิ่มจำนวนขึ้น ก็จะทำให้มีภาวะตกขาวผิดปกติ ได้ เช่น
    • การสวนล้างช่องคลอด 
    • การใช้น้ำยาเฉพาะที่ล้างอวัยวะเพศ 
    • การใช้กระดาษชำระเช็ดเข้าไปลึกๆ
    • ซักกางเกงในไม่หมด มีผงซักฟอกตกค้างอยู่
    • การใช้แผ่นอนามัยแบบบางตลอดเวลา อาจทำให้เกิดความอับชื้นได้
    • การเช็ด ล้าง ทวารหนัก จากหลังไปหน้า
    • การมีเพศสัมพันธ์โดยใช้ปาก (น้ำลายไปทำลายความเป็นกรดในช่องคลอด)
    • การมีเลือดประจำเดือน (มักมีอาการช่วงก่อนมีประจำเดือน และหลังหมดประจำเดือนใหม่ๆ) 

ตกขาวปนเลือด

  • ตกขาวปนเลือด ภายหลังการมีประจำเดือนในสตรีที่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ เกิดจากฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลงก่อนที่ไข่จะตก ทำให้มีเลือดได้เล็กน้อย พอไข่ตกแล้วระดับเอสโตรเจนจะเพิ่มขึ้น ทำให้เลือดหยุดไปเอง ถือว่าไม่มีปัญหาต่อสุขภาพ จัดเป็นตกขาวปกติ ครับ
  • ถ้ามี ตกขาวปนเลือด หลังจากมีประจำเดือน 7-10 วัน หรือ หลังจากมีเพศสัมพันธ์ ควรไปพบแพทย์ ครับ

ปิดท้าย

  • ยุคนี้ ทุกท่านมีสิทธิ์ต่างๆ ในการรักษาพยาบาล(แบบไม่เสียเงินด้วย) และสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้ง่ายกว่าเมื่อก่อน ดังนั้นถ้ารู้สึกว่าร่างกายเราผิดปกติ ก็ควรไปพบแพทย์ รักษาให้เป็นเรื่องเป็นราว ดีกว่าเดาสุ่ม รักษาตัวเอง ครับ    

หมายเหตุ

  • ทุกเรื่องราวของ vcanfit ท่านสามารถแขร์ได้เลย ไม่มีหวง จะได้เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพสำหรับผู้คนในวงกว้าง ครับ
  • สงสัยเรื่องอาหาร/สุขภาพ อยากได้คำตอบแบบสั้นๆ ง่ายๆ ที่อิงหลักวิชาการ ลองเข้าGoogle พิมพ์ vcanfit  เว้นวรรค แล้วพิมพ์ คำที่ต้องการหา (เป็นภาษาไทยหรืออังกฤษก็ได้) จากนั้นกด ENTER ครับ

  
   

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น