วันพฤหัสบดีที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2559

เป็นไข้..ควรกังวลไหม?

ช่วงนี้เพื่อนฝูงแวะเวียนมาขอยาลดไข้กันสองสามคน เป็นหวัด มีน้ำมูกฟึดฟัดกันมาทั้งนั้น แต่ก็กังวล กลัวจะเป็นอะไรรุนแรง เลยคิดว่าเอาเรื่อง "ไข้" มาคุยกันดีกว่า แต่เอาแบบบ้านๆ นะครับ ไม่อยากให้รู้สึกว่าอ่านตำราอยู่

เป็นไข้

  • หมายถึง การที่อุณหภูมิกายเพิ่มสูงกว่าปกติ 
  • อุณหภูมิที่ถือว่าเป็นไข้หรือมีไข้โดยทั่วไปเมื่อวัดด้วยการอมปรอทวัดไข้ คือ "สูงมากกว่า 37.5 องศาเซลเซียส" 
    • ถ้าสูงไม่เกิน 38 องศาเซลเซียส เรียกว่า ไข้ต่ำ (Low grade fever)” 
    • ถ้าสูงเกิน 38 องศาเซลเซียส เรียกว่า ไข้สูง (High grade fever)” 
    • ถ้าสูงเกิน 41.5 องศาเซลเซียส เรียกว่า ไข้สูงเกิน (Hyperpyrexia)” ซึ่งจัดว่าอันตรายที่สุด มักเกิดจากการติดเชื้อในกระแสโลหิต หรือมีเลือดออกในสมอง
  • เวลามีไข้ "ไม่จำเป็นว่าทุกส่วนของร่างกายจะต้องร้อนเท่ากันหมด" อาจร้อนที่ศีรษะ ลำตัว และแขนขา แต่ฝ่ามือฝ่าเท้าอาจเย็นก็เป็นได้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอย่างที่เชื่อกันมา 

สาเหตุของไข้ มีมากมาย เช่น

1. ไข้หวัดธรรมดา 

  • มีไข้ จาม คัดจมูก น้ำมูกไหล ไอ  
  • อาการไข้จะมีอยู่ ราว 3-4 วัน ก็หายไปถ้าไม่มีภาวะแทรกซ้อน เช่น หูอักเสบ ปอดบวม 

2. ไข้หวัดใหญ่ 

  • มีไข้ ปวดเมื่อยแขนขา ปวดเบ้าตา
  • ไข้อาจสูงถึง 40 องศาเซลเซียสได้
  • อาการไข้ปรากฏอยู่ 3-5 วัน และหายถ้าไม่มีภาวะแทรกซ้อน

3. ปอดอักเสบ (ปอดบวม) 

  • มักจะมีอาการของไข้หวัดนำมาก่อน 2-3 วัน ต่อมามีอาการไข้สูงขึ้น ไอมากขึ้น และหายใจเร็ว และ หอบ (สังเกตุดู รูจมูกบาน ช่องซี่โครงบุ๋ม) 
  • มักจะเบื่ออาหาร กินไม่ได้ จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาลเพื่อให้น้ำเกลือ และอาจต้องให้ออกซิเจนด้วย

4. ไข้เลือดออก 

  • มีไข้ 3-4 วัน ร่วมกับอาการซึม หน้าแดง เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ปวดใต้ชายโครงข้างขวา 
  • อาจมีอาเจียนเป็นเลือด หรือถ่ายอุจาระสีดำ และ มีอาการช๊อคได้

5. ไข้ไทฟอยด์ 

  • มีไข้ ซึม ถ่ายอุจจาระเหลว หรือท้องผูก
  • หากไม่รักษาไข้จะปรากฏอยู่นาน 3 สัปดาห์ และมีโรคแทรกซ้อนทางลำไส้ สมอง และอื่นๆ 

ยาลดไข้

  • เป็นเพียงยาบรรเทาอาการไข้ ไม่ได้ไปรักษาสาเหตุของการเกิดไข้
  • ยาที่ใช้กันโดยทั่วไป คือ "ยาพาราเซตามอล" โดยกินยา 1 ครั้ง(ขนาดตามอายุคนโต หรือตามน้ำหนักตัวเด็ก) จะออกฤทธิ์ลดไข้ได้นาน 4-6 ชั่วโมง 
  • ยาพาราเซตามอลนี้ ถ้ากินมากๆ หรือกินนานๆ ก็ไม่ดี เพราะยามีผลทำลายตับด้วย ควรกินเมื่อจำเป็น ไม่ใช่กินพร่ำเพรื่อ

ส่งท้าย

  • ไข้หรือตัวร้อนเป็นเพียงอาการของโรคอย่างหนึ่งเท่านั้น "ไม่ต้องกังวลเรื่องไข้" แต่ "ควรกังวลเรื่องที่ว่าโรคอะไรที่ทำให้ท่านมีไข้"
  • ถ้าอาการไข้มีสาเหตุมาจาก ไข้หวัดธรรมดา ดูแล้วไม่มีโรคแทรกซ้อนอื่น 3-4 วัน ก็หาย แต่ถ้าไม่ใช่ และ อาการไม่ดี ควรรีบไปพบแพทย์ ครับ
  • ถ้าไข้สูง โดยเฉพาะในเด็ก และเด็กที่เคยมีประวัติชัก ต้องระวังการมีไข้เป็นพิเศษ โดยเช็ดตัวและให้ยาลดไข้

หมายเหตุ

  • ทุกเรื่องราวของ vcanfit ท่านสามารถแขร์ได้เลย ไม่มีหวง จะได้เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพสำหรับผู้คนในวงกว้าง ครับ
  • สงสัยเรื่องอาหาร/สุขภาพ อยากได้คำตอบแบบสั้นๆ ง่ายๆ ที่อิงหลักวิชาการ ลองเข้าGoogle พิมพ์ vcanfit  เว้นวรรค แล้วพิมพ์ คำที่ต้องการหา (เป็นภาษาไทยหรืออังกฤษก็ได้) จากนั้นกด ENTER ครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น