วันอังคารที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2559

บัวบก..อย่ามองข้าม

บัวบก เป็นผักแนมลาบ น้ำตก ส้มตำ ที่ผมสังเกตุจากคนรอบตัวได้ว่าไม่ค่อยมีคนหยิบกินกันสักเท่าไร เหลือทุกที 

บัวบก

  • มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Centella asiatica ซึ่งบ่งบอกว่าอยู่ในแถบเอเชียแน่นอน
  • ชื่ออื่นๆ ได้แก่ กะโต่ ผักแว่น ผักหนอก
  • เป็นพืชล้มลุก มีขนาดเล็ก เลื้อยไปตามดิน มีไหลที่จะเจริญขึ้นเป็นต้นใหม่ได้

ประโยชน์ทางยา

1. การแพทย์แผนไทย 

  • บัวบกมีรสเฝื่อนขมเย็น เป็นยาขับปัสสาวะ แก้ท้องเสีย แก้ลม 
  • เป็นยาบำรุงกำลัง แก้อ่อนเพลีย แก้เมื่อยล้า  
  • เป็นยาอายุวัฒนะ 

2. คัมภีร์อายุรเวทของอินเดีย

  • บัวบกทั้งต้นมีกลิ่นฉุน มีรสขมหวาน เป็นยาเย็น 
  • ใช้เป็นยาบำรุง เพื่อฟื้นฟูสุขภาพ  
  • ช่วยให้ความจำดีขึ้น 
  • เป็นยาเจริญอาหาร 
  • แก้ไข้ แก้อักเสบ 
  • บางแหล่งเชื่อว่า การกินใบบัวบกวันละ 1-2 ใบกับนมทุกวัน จะช่วยบำรุงประสาท ทำให้ความจำดีขึ้น จิตใจผ่องใส 

3. การแพทย์จีน

  • ให้บัวบก เป็นสมุนไพรของความเป็นหนุ่มสาว 

4. การแพทย์สมัยใหม่

  • พบว่าบัวบก มีฤทธิ์ในการบำรุงสมองเช่นเดียวกับแปะก๊วย โดยช่วยเพิ่มความสามารถในการจดจำ และการเรียนรู้ 
  • ช่วยชะลออาการของโรคสมองเสื่อมในวัยชรา หรืออัลไซเมอร์ 
  • ช่วยคลายเครียด
  • ช่วยให้มีสมาธิในการทำงาน 
  • ช่วยต้านการเสื่อมของเซลล์สมอง 
  • ช่วยคงสภาพปริมาณสารสื่อประสาท อะเซทิลโคลีน (Acetylcholine) ซึ่งจำเป็นต่อการทำงานของสมอง 
  • ช่วยลดความดันเลือดจากการเพิ่มความยืดหยุ่นให้หลอดเลิอด และทำให้เลิอดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ได้ดีขึ้น
  • มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ 
  • ช่วยเพิ่มการสร้างคอลลาเจน

ส่งท้าย

  • กินบัวบกเป็นยาบำรุง วันละ 2-3 ใบ ทุกวัน หรือ กินเป็นผักจิ้ม ครั้งละ 10-20 ใบ สัปดาห์ละครั้ง ได้สบายๆ แต่ไม่ใช่กินวันละมากๆ ทุกวัน จะทำให้เสียสมดุลธาตุในร่างกายได้ เพราะบัวบกมีฤทธิ์เย็นจัด ครับ

หมายเหตุ

  • ทุกเรื่องราวของ vcanfit ท่านสามารถแขร์ได้เลย ไม่มีหวง จะได้เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพสำหรับผู้คนในวงกว้าง ครับ
  • สงสัยเรื่องอาหาร/สุขภาพ อยากได้คำตอบแบบสั้นๆ ง่ายๆ ที่อิงหลักวิชาการ ลองเข้าGoogle พิมพ์ vcanfit  เว้นวรรค แล้วพิมพ์ คำที่ต้องการหา (เป็นภาษาไทยหรืออังกฤษก็ได้) จากนั้นกด ENTER ครับ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น