วันอาทิตย์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2559

กินข้าวเหนียวมะม่วงอย่างไร...ให้ไม่อ้วน

ข้าวเหนียวมะม่วง หนึ่งในอสูรร้ายฤดูร้อน สำหรับคนที่กำลังลด หรือ ควบคุมน้ำหนักตัว อยากกินก็อยาก แต่กินแล้วมักจะรู้สึกผิดน่าดู ทั้งๆที่ปีนึงจะมีให้กินอย่างเอร็ดอร่อยสุดๆ ก็แค่ช่วง เม.ย.- พ.ค.นี้เท่านั้นมาหากินนอกช่วงนอกจากจะไม่อร่อยแล้วยังแพงด้วย

มากินข้าวเหนียวมะม่วงกันครับ แต่ต้อง.... 

1. กินแทนที่มื้ออาหารไปเลย

  • ใน 1 วัน คนที่จะลดความอ้วน ถ้าคิดแบบง่ายๆ ไม่ควรรับพลังงานจากอาหารเกินวันละ 1,200-1,500 กิโลแคลอรี่ (ถ้าเอาแบบใกล้เคียงกับความต้องการของท่าน ลองคลิ๊กดูที่นี่ ครับ)
  • ถ้าเรากินอาหารวันละ 3 มื้อ ก็เฉลี่ยมื้อละ 400-450 กิโลแคลอรี่ โดยประมาณ
  • มะม่วงสุก 1 ผล ให้พลังงานประมาณ 150 กิโลแคลอรี่ ข้าวเหนียวมูล 1ขีด (100 กรัม = เอาข้าวเหนียวมูลที่ซื้อมาครึ่งกิโลกรัม มาแบ่งเป็น 5 ส่วน แบ่งมากิน 1 ส่วน) ให้พลังงานประมาณ 300 กิโลแคลอรี่
  • ถ้ากิน ข้าวเหนียวมูล 1 ขีด กับ มะม่วงสุก 1 ลูก จะได้รับพลังงาน 300 + 150 = 450 กิโลแคลอรี่ ดังนั้น ถ้าจะกินข้าวเหนียวมะม่วง ก็กินแทนที่อาหารหลัก 1 มื้อ ไปเลย ครับ

2. กินเวลาไหนดี

  • บางคนจะแนะนำว่า ไม่ควรกินมื้อเย็น เพราะไม่ได้ใช้พลังงานแล้ว แต่ สำหรับผม กินมื้อไหนก็เหมือนกันละครับ ได้พลังงานเข้าร่างกายเท่ากัน ส่วนการใช้พลังงาน หรือ การออกกำลังกาย นั้น ทำตอนไหนมันก็เป็นการเผาผลาญ และลดน้ำหนักส่วนเกินได้ทั้งนั้น ไม่จำเป็นต้องหักกลบลบหนี้ให้เสร็จสิ้นในแต่ละวันหรอกครับ ไม่ได้ทำบัญชีกำไรขาดทุนรายวันนะครับ
  • กินตอนกลางวัน อาจง่วงจัดตอนบ่ายจนทำงานไม่ได้เรื่อง หรือ อาจอิ่มเอม เคลิบเคลิ้มเกิดความคิดสร้างสรรค์มากมายก็ได้
  • กินมื้อเย็น-ค่ำ อาจแน่นอึดอัด นอนไม่หลับ หรือ อาจตาปรือจนหลับไปง่ายๆ ก็เป็นไปได้ทั้งนั้นครับ

3. รู้จักพอ

  • มันมีแค่เส้นบางๆ กั้นอยู่เท่านั้นครับ ระหว่าง การกินให้อร่อยตามสมควร กับ การฉวยโอกาสแบบมีข้ออ้างที่ดี
  • เอาแค่ สัปดาห์นึงกินไม่เกิน 2-3 ครั้ง ก็น่าจะเพียงพอกับความอยากแล้วนะครับ
  • ถึงจะเป็นคนที่สุขภาพแข็งแรงดี ก็ควรกินข้าวเหนียวมะม่วงแบบพอประมาณ จะได้ไม่อ้วน แต่ ถ้ามีปัญหาไขมันในเลือดสูง เบาหวาน อันนี้ยิ่งต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เอาแค่ชิมนิดหน่อยก็พอแล้ว ครับ

ปิดท้าย

  • ข้าวเหนียวมะม่วง ไม่ใช่ของหวานน่ากลัว แต่เพียงอย่างเดียวนะครับ มันเป็น ภูมิปัญญาของบรรพบุรุษไทยเรา เลย เพราะ มะม่วงอุดมไปด้วย วิตามินA ซึ่งละลายในไขมัน โบราณเราก็เลยจับให้กินคู่กับกะทิ(ไขมัน)ซะเลย จะได้ช่วยพาวิตามินA เข้าร่างกายได้ง่ายๆ ครับ

หมายเหตุ

  • ทุกเรื่องราวของ vcanfit ท่านสามารถแขร์ได้เลย ไม่มีหวง จะได้เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพสำหรับผู้คนในวงกว้าง ครับ
  • สงสัยเรื่องอาหาร/สุขภาพ อยากได้คำตอบแบบสั้นๆ ง่ายๆ ที่อิงหลักวิชาการ ลองเข้า Google พิมพ์ vcanfit  เว้นวรรค แล้วพิมพ์ คำที่ต้องการหา (เป็นภาษาไทยหรืออังกฤษก็ได้) จากนั้นกด ENTER ครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น