วันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ขนมจีน

"ขนมจีน" เป็นขนมก็ไม่ใช่ แถมยังไม่ใช่ของจีนอีกด้วยครับ

ขนมจีน

  • "ขนมจีน" มาจากคำมอญ คือ "คนอมจิน" 
  • ชาวมอญเรียกขนมจีนว่า "คนอมจิน" 
  • คนอม คือ "จับกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน" ส่วน จิน คือ "ทำให้สุก"
  • "ขนมจีน" ภาษาเหนือเรียก ขนมเส้นส่วนภาษาอีสานเรียก ข้าวปุ้นครับ
  • ขนมจีน กินกับน้ำยากะทิ น้ำยาป่า น้ำพริก น้ำเงี้ยว ซาวน้ำ แกงไตปลา แกงเขียวหวาน ฯลฯ อร่อยทั้งนั้น จัดเป็นอาหารยอดนิยมของคนไทยเราทีเดียว แถมยังได้กินผักเยอะๆ ด้วย มีประโยชน์ต่อร่างกายไม่น้อยเลยครับ

ขนมจีนมี 2 ชนิด

1. ขนมจีนแป้งหมัก 

  1. ใช้แป้งข้าวเจ้ามาแช่น้ำให้นิ่ม 
  2. นำไปโม่ 
  3. หมักไว้ประมาณเจ็ดวัน 
  4. นำมานวดด้วยเครื่องนวดแป้ง

2.  ขนมจีนแป้งสด 

  1. ใช้วิธีการผสมแป้งข้าวเจ้า (ไม่ต้องทิ้งไว้) 
  2. นำมานวดด้วยเครื่องนวดแป้ง

หลังจากนวดแป้งแล้ว...

  1. เทแป้งใส่กระบอกทองเหลือง ที่เจาะรูไว้ เมื่อกดแป้งเข้าไปในกระบอก เส้นขนมจีนก็จะไหลออกจากปลายกระบอก 
  2. เมื่อได้เส้นแล้วก็นำไปต้ม 
  3. นำมาราดด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง

ข้อสังเกตุ

  • ขนมจีนเป็นอาหารเส้นที่ทำจากแป้ง ที่เมื่อเก็บไว้ก็มีโอกาสบูดเสียได้ จึงมีผู้ผลิต(บางราย) ใส่สารกันบูดลงไปด้วย ที่นิยมใช้กันคือ กรดเบนโซอิค ซึ่งเป็นสารที่มีการอนุญาตให้ใส่ในอาหารได้(ในปริมาณที่กำหนด)
  • ถ้าร่างกายเราได้รับ กรดเบนโซอิก จากอาหารในปริมาณสูงๆ จนร่างกายขับออกไม่ทัน อาจก่อให้เกิดพิษเฉียบพลันได้ โดยจะมีการระคายเคืองของระบบทางเดินอาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ปวดศีรษะ วิงเวียนได้ ครับ
  • ปัญหา(ของพวกเรา) ก็คือ เราไม่มีทางทราบได้หรอกครับ ว่าเจ้าไหนใส่สารกันบูดมาก น้อย หรือ ไม่ใส่เลย ดังนั้น สิ่งที่เราทำได้ก็คือ อย่ากินซ้ำๆ มากเกินไป กินอาหารอื่นๆ ให้หลากหลายเข้าไว้ดีกว่าครับ

หมายเหตุ

  • ทุกเรื่องราวของ vcanfit ท่านสามารถแขร์ได้เลย ไม่มีหวง จะได้เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพสำหรับผู้คนในวงกว้าง ครับ
  • สงสัยเรื่องอาหาร/สุขภาพ อยากได้คำตอบแบบสั้นๆ ง่ายๆ ที่อิงหลักวิชาการ ลองเข้าGoogle พิมพ์ vcanfit  เว้นวรรค แล้วพิมพ์ คำที่ต้องการหา (เป็นภาษาไทยหรืออังกฤษก็ได้) จากนั้นกด ENTER ครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น