วันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ลมหายใจเหม็น


เคยคุยกับใครแล้วต้องกลั้นหายใจเป็นระยะๆ ไหมครับ? น่ากลัวนะครับ "กลัวว่าตัวเราเองจะมีกลิ่นเหม็นแบบนี้ แล้วไม่รู้ตัว ครับ" ของแบบนี้ถ้าไม่สนิทกันจริงๆ ไม่มีใครกล้าบอกเราหรอกครับ

ลมหายใจมีกลิ่น : Bad breath

สาเหตุ

1. กลิ่นจากช่องปาก (Oral Cavity)

  • เป็นสาเหตุที่พบมากที่สุดถึง 80 - 90% ของคนที่ลมหายใจมีกลิ่นเหม็น
  • เกิดจากการสะสมของแบคทีเรียบริเวณช่องระหว่างฟัน และด้านหลังของโคนลิ้น
  • เชื้อโรคที่ทำให้เกิดกลิ่นปากส่วนใหญ่ ได้แก่ กลุ่มแบคทีเรีย ซึ่งภาวะความเป็นกรด-ด่าง ในปาก การปากแห้ง รวมทั้งการหมักหมมของเศษอาหาร จะมีผลต่อจำนวนแบคทีเรีย และกลิ่นเหม็น
  • คนที่มีปัญหาปากแห้ง (xerostomia) จะมีกลิ่นปากขณะที่ปากแห้ง ซึ่งเกิดจากภาวะเป็นกรดที่ส่งผลต่อเชื้อโรคที่อาศัยในช่องปาก
  • ภาวะเหงือกอักเสบ ก็สามารถทำให้เกิดกลิ่นปากได้

2. โพรงจมูก (Nasal passages)

  • พบได้บ่อยเป็นอันดับสอง คือ 8 - 10 % ของคนที่ลมหายใจมีกลิ่นเหม็น
  • มักเกิดจากการติดเชื้อในโพรงจมูก เช่น ไซนัสอักเสบ
  • การมีภาวะอุดกั้นของโพรงจมูก ก็ทำให้เกิดกลิ่นได้ โดยเฉพาะในเด็กเล็กที่หยิบสิ่งแปลกปลอมใส่เข้าไปในรูจมูก

3. ต่อมทอนซิล (Tonsils)

  • พบเป็นสาเหตุได้ประมาณ 3% 

4. อื่นๆ (Others) เช่น

  • การติดเชื้อที่หลอดลมและปอด ไตวาย ตับวาย และโรคมะเร็งต่าง ๆ แต่พบได้น้อยครับ
  • คนที่เป็นโรคเบาหวาน ที่ควบคุมระดับน้ำตาลได้ไม่ดี จะมีกลิ่นลมหายใจเหม็นจากสารคีโตน
  • ภาวะที่ร่างกายได้รับคาร์โบไฮเดรตต่ำ เช่นการลดความอ้วนโดยการไม่กินแป้งเลย อาจทำให้ลมหายใจมีกลิ่นได้

ข้อสังเกตุ

  • ภาวะลมหายใจมีกลิ่นเหม็นนี้แทบจะไม่พบว่ามาจาก หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร หรือ ลำไส้เลย เนื่องจากหลอดอาหารในภาวะปกติจะแฟบ อาจจะมีกลิ่นได้บ้างในขณะที่เรอแต่จะไม่มีกลิ่นเป็นเวลานานๆ ครับ
  • ขณะนอนหลับ กลิ่นลมหายใจจะเหม็นที่สุด เนื่องจากไม่ค่อยมีการหลั่งน้ำลาย แบคทีเรียจะทำงานได้ดีที่สุด
  • บางคนพยายามที่จะดับกลิ่นปากของตนเอง โดยการสูบบุหรี่ซึ่งกลับทำให้สถานการณ์เลวร้ายมากขึ้น เนื่องจากกลิ่นเหม็นของบุหรี่ ซึ่งยังคงออกมาจากลมหายใจแม้ว่าจะหยุดไปแล้วมากกว่าหนึ่งวันก็ตาม

การแก้ไข

1. ในคนที่ทราบสาเหตุ ควรจะรักษาตามสาเหตุ

2. คนที่ไม่ทราบสาเหตุที่แน่นอน สามารถบรรเทาได้โดยวิธีต่างๆ ดังนี้

  • แปรงฟันทุกครั้งหลังมื้ออาหาร และอย่าลืมแปรงด้านบนของลิ้นด้วย ถ้าไม่สะดวกในการแปรงฟัน ให้บ้วนปากด้วยน้ำเปล่า หรือน้ำยาบ้วนปาก
  • ใช้ไหมขัดฟันวันละ 2-3 ครั้ง
  • อย่าปล่อยให้ปากแห้งเพราะเมื่อปากแห้งความเข้มข้นของแบคทีเรียในปากจะเพิ่มมากขึ้น ทำให้เกิดกลิ่นปากได้ง่าย
  • ตรวจสุขภาพฟันทุก 6 เดือน
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ
  • เคี้ยวหมากฝรั่ง(ชนิดไม่มีน้ำตาล)
  • กินอาหารให้ครบหมู่ โดยเฉพาะกลุ่มแป้ง (ถ้ากำลังลดความอ้วนก็กินน้อยหน่อย)
  • งดอาหารกลิ่นแรง เช่น กระเทียม หอมแดง หอมใหญ่ และ ชีส เป็นต้น
  • หลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟ
  • ไม่สูบบุหรี่อย่างเด็ดขาด

หมายเหตุ

  • ทุกเรื่องราวของ vcanfit ท่านสามารถแขร์ได้เลย ไม่มีหวง จะได้เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพสำหรับผู้คนในวงกว้าง ครับ
  • สงสัยเรื่องอาหาร/สุขภาพ อยากได้คำตอบแบบสั้นๆ ง่ายๆ ที่อิงหลักวิชาการ ลองเข้า Google พิมพ์ vcanfit  เว้นวรรค แล้วพิมพ์ คำที่ต้องการหา (เป็นภาษาไทยหรืออังกฤษก็ได้) จากนั้นกด ENTER ครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น