วันศุกร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2558

สุขสันต์วันคริสต์มาส : Merry Christmas

ปัจจุบันเทศกาลคริสต์มาส กลายเป็นเทศกาลที่มีความสำคัญในเมืองไทยไม่แพ้วันไหนๆ แม้จะไม่ได้เป็นวันหยุดอย่างเป็นทางการก็ตาม คนไทยต่างร่วมเฉลิมฉลองอย่างไม่รู้สึกแปลกแยกแต่อย่างใด ผมก็ขอร่วมเฉลิมฉลองด้วยการเอาเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของวันคริสต์มาส มาเล่าสู่กันฟังครับ

คริสต์มาส (Christmas) 

  • ในเอกสารโบราณใช้คำว่า Cristes Maesse หมายถึง พิธีมิสซาของพระคริสต์ หรือ วันสมโภชพระคริสตสมภพ จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีเพื่อเฉลิมฉลองการประสูติของพระเยซู 

คำอวยพร Merry Christmas 

  • คำว่า Merry ในภาษาอังกฤษโบราณ คือ สันติสุขและความสงบทางใจ เป็นคำที่ใช้อวยพรคนอื่น ขอให้เขาได้รับสันติสุข และความสงบทางใจ เนื่องในโอกาสเทศกาลคริสต์มาส 

เพลงคริสต์มาส

  • เดิมร้องเป็นภาษาละติน เป็นแบบพิธีการ 
  • มีการเปลี่ยนแปลงให้มีท่วงทำนองที่ร่าเริงขึ้นในศตวรรษที่ 12 
  • ในศตวรรษที่ 19 ได้มีการแต่งเพลงซึ่งเป็นที่นิยมร้องกันมาก มาจนถึงปัจจุบัน ตือ เพลง Silent Night, Holy Night

ต้นคริสต์มาส 

  • หมายถึง ต้นไม้ในสวนสวรรค์ ซึ่งอาดัมและเอวาไปหยิบผลไม้มากิน และทำบาป ไม่เชื่อฟังพระเจ้า 
  • ตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 ชาวคริสต์แสดงละครที่หน้าวัด ถึงความหมายของคริสต์มาส และเอาต้นสนต้นหนึ่งไว้ตรงกลาง เพื่อประดับฉาก แสดงถึงบาปกำเนิดของอาดัมและเอวา การแสดงละครคริสต์มาสแบบนี้ มีมาเป็นเวลาหลายร้อยปี 
  • จนถึงศตวรรษที่ 15 ได้มีการห้ามแสดง เนื่องจากกลายเป็นการล้อเลียนผู้ปกครองบ้านเมือง และศาสนา ทำให้ชาวบ้านรู้สึกเสียดายที่ไม่มีโอกาสดูละครสนุกๆ แบบนั้นอีก จึงไปตั้งต้นไม้สนุกกันเองที่บ้าน หลังจากนั้นก็เริ่มมีการแขวนลูกแอปเปิ้ล ขนม และของขวัญอย่างที่เห็นกันทุกวันนี้ 

ซานตาคลอส 

  • ชื่อซานตาคลอส มาจากชื่อนักบุญนิโคลาส สังฆราชของไมรา (อยู่ในประเทศตุรกีปัจจุบัน) ซึ่งเป็นนักบุญองค์อุปถัมภ์ของเด็กๆ ที่ชาวฮอลแลนด์นับถือ มีชีวิตอยู่ราวศตวรรษที่
  • เมื่อชาวฮอลแลนด์กลุ่มหนึ่ง อพยพไปอยู่อเมริกา ก็ยังคงรักษาประเพณีการฉลองนักบุญนิโคลาส ในวันที่ ธันวาคม ซึ่งหมายถึง นักบุญนี้จะมาเยี่ยมเด็กๆ และเอาของขวัญมาให้ 
  • เด็กอื่นๆ ที่ไม่ใช่ลูกหลานของชาวฮอลแลนด์ ก็รู้สึกอยากมีส่วนร่วมบ้าง เพื่อรับของขวัญ ประเพณีนี้จึงเริ่มเป็นที่รู้จัก และแพร่หลายไปในอเมริกา 
  • ต่อมามีการเปลี่ยนแปลงจากชื่อนักบุญนิโคลาส เป็นซานตาคลอส เป็นชายแก่ร่างอ้วน ใส่ชุดสีแดง อาศัยอยู่ที่ขั้วโลกเหนือ มีเลื่อนที่ลากโดยกวางเรนเดียร์เป็นพาหนะ และจะมาเยี่ยมเด็กทุกคนในโลกนี้ ในโอกาสคริสต์มาส โดยลงมาทางปล่องไฟของบ้าน เพื่อเอาของขวัญมาให้เด็กเหล่านั้น

Christmas Dinner

  • ชาวอังกฤษมักรับประทานอาหารมื้อพิเศษนี้ในวันที่ 24 ธันวาคม จะเริ่มเสิร์ฟตั้งแต่เที่ยง หรือบ่ายโมงเป็นต้นไป เพราะเป็นอาหารมื้อใหญ่ที่สมาชิกทุกคน ในครอบครัวจะมาร่วมสังสรรค์กัน
  • อาหารในเทศกาลคริสต์มาส สำหรับชาวอังกฤษ มักต้องมี ไก่งวง ถ้าบ้านไหนไม่กินไก่งวงก็จะใช้ห่านแทน โดยจะมี เครื่องสำหรับยัดไส้ไก่งวง หรือห่านอบ ที่มักทำด้วยขนมปังเก่าหั่นเป็นชิ้นสี่ เหลี่ยมลูกเต๋า หอมหัวใหญ่ แครอท เซเลอรี่สับผัดกับเนยแล้วใส่ไข่ ใส่นม นิยมใส่ลูกเกาลัดบดและเบคอน เพื่อเพิ่มกลิ่นหอมและรสชาติให้อร่อยยิ่งขึ้น นำส่วนผสมเหล่านี้คลุกเคล้าให้ เข้ากัน แล้วยัดเข้าไปในตัวไก่งวงหรือห่าน อบด้วยความร้อนไม่สูงมาก ใช้เวลาอบค่อนข้างนาน
  • เมื่อถึงเวลารับประทาน ผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่ที่สุดของบ้านจะเป็นผู้หั่นไก่งวงแบ่งให้สมาชิกทุกคนใน ครอบครัว แล้วจะใช้เวลารับประทานกันนานมาก มีการดื่มเครื่องดื่มต่างๆ เช่น เหล้า ไวน์ แชมเปญไปด้วย
  • ของหวาน ได้แก่ คริสต์มาสพุดดิ้ง ซึ่งจะคล้ายฟรุตเค้ก แต่จะใช้วิธีการนึ่งแทนการอบ  โดยทำพุดดิ้งใส่ไว้ในโถ นึ่งจนสุกเนื้อนุ่ม เวลาเสิร์ฟจะราดบรั่นดีลงไป แล้วจุดไฟให้ลุกพรึ่บขึ้นมา ทำให้มีกลิ่นหอมมากขึ้น และดูน่ากินขึ้นด้วย
  • อาหารฉลองคริสต์มาสในแต่ละประเทศก็จะแตกต่างกันไปตามแต่ละท้องถิ่น และวัฒนธรรม 

ส่งท้าย 

  • คริสต์มาสเป็นเทศกาล แห่งความรักความรื่นรมย์อันเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มและความสุข ที่ผู้คนทั่วโลกต่างเฉลิมฉลองด้วยการให้ของขวัญ และดื่มกิน
  • ถ้ามองให้ลึกซึ้ง เทศกาลคริสต์มาส เป็นการแสดงออกถึงความรักที่มีต่อคนรอบข้าง การใช้เวลาร่วมกันของสมาชิกในครอบครัว ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมากๆ ครับ

             Merry Christmas ทุกท่านครับ.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น