วันพฤหัสบดีที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2558

มะเขือม่วง : Benefits of Eating Eggplant


    ปัจจุบันคนไทยเราคุ้นเคยกับมะเขือม่วงกันมากแล้ว เอามาทำอาหารต่างๆ กันมากขึ้น จริงๆแล้วมะเขือม่วงปลูกไม่ยากเลย ใครพอมีพื้นที่อยู่บ้างก็น่าปลูกไว้ชื่นชม+ชิม ผลงานของเราเองนะครับ

มะเขือม่วง (Eggplant)

  • มีถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดีย อยู่ในตระกูลเดียวกับพริก มะเขือเทศ มันฝรั่ง และยาสูบ 
  • ในเขตร้อนจะเป็นพืชข้ามปี แต่ในเขตหนาวมักปลูกเป็นพืชฤดูเดียว
  • เป็นไม้พุ่ม สูงประมาณ 1-1.5 เมตร ลำต้นมีขนนุ่มปกคลุมทั่วไป และมีหนามเล็กๆ 
  • ให้ผลได้ตลอดปี
  • ผลมีทรงกลมรียาว ทรงหยดน้ำ หรือ เป็นรูปไข่ ผิวเรียบเป็นสีม่วง 
  • ขนาดของผลขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ (ประมาณ 4-30 เซนติเมตร)  
  • ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด
  • อุณหภูมิที่เหมาะสม คือ 22-30 องศาเซลเซียส ถ้าต่ำกว่า 17 องศาเซลเซียส หรือสูงกว่า 35 องศาเซลเซียส การเจริญเติบโตจะชะงัก 
  • มะเขือม่วงต้องการดินร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี (ถ้ามีน้ำขังรากจะเน่าได้ง่าย) ชอบแสงแดดเต็มวัน
  • ไม่ควรปลูกมะเขือม่วงซ้ำกับพื้นที่ที่เคยปลูกมะเขือเทศ และพริก  

ประโยชน์

1. มี วิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายชนิด โดยคุณค่าทางโภชนาการของมะเขือม่วง ต่อ 100 กรัม จะประกอบไปด้วย 
  • พลังงาน 24 กิโลแคลอรี่
  • โปรตีน 1 กรัม,ไขมัน 0.2 กรัม,คาร์โบไฮเดรต 5.7 กรัม 
  • เส้นใยอาหาร 0.8 กรัม
  • วิตามินA 130 หน่วยสากล, วิตามินB1 10 มิลลิกรัม, วิตามินB2 0.05 มิลลิกรัม, วิตามินB3 0.6 มิลลิกรัม
  • ธาตุเหล็ก 0.6 มิลลิกรัม,แคลเซียม 30 มิลลิกรัม,ฟอสฟอรัส 27 มิลลิกรัม,โซเดียม 4 มิลลิกรัม และ โปแตสเซียม 223 มิลลิกรัม
2. สารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ที่เราเห็นในผลสีม่วงนั้น มีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระ การกินมะเขือม่วงเป็นประจำจึง ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ในการต่อต้านเชื้อโรคของร่างกาย ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ และดวงตา 

เมนูมะเขือม่วง(แบบง่ายๆ)

สลัดมะเขือม่วง

วัตถุดิบ

  • มะเขือม่วงหั่นแว่น 1 ลูก
  • มะเขือเทศหั่นแว่น 2 ลูก
  • เชดดาร์ชีสหั่นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กๆ 1 แผ่น 
  • น้ำมันมะกอก (หรือน้ำมันพืชอะไรก็ได้) 1 ช้อนโต๊ะ 
  • เกลือ

น้ำสลัด

  • หอมสับละเอียด 2 ลูก 
  • น้ำมะนาว 2 ช้อนชา 
  • เกลือ 1- 2 ช้อนชา
  • น้ำมันมะกอก 1 ช้อนชา

วิธีทำ

  1. ผสมส่วนผสมน้ำสลัดทั้งหมด คนให้เข้ากัน พักไว้
  2. คลุกมะเขือม่วงกับน้ำมันและเกลือพอเข้ากัน 
  3. ย่างมะเขือม่วงในกระทะ จนสุกทั้งสองด้าน ตักใส่จาน พักไว้ 
  4. ย่างมะเขือเทศในกระทะ จนสุกทั้งสองด้าน ตักใส่จาน พักไว้
  5. เรียงมะเขือม่วงลงบนจาน วางมะเขือเทศลงไป ตามด้วยเชดดาร์ชีส แล้วตักน้ำสลัดราด พร้อมเสิร์ฟ

ปิดท้าย    

  • มะเขือม่วง มีเนื้อเยอะ เอามาทำอาหารได้หลากหลาย เช่น ผัดกับหมู เผาหรือหั่นเป็นแว่นชุบไข่ทอด กินกับน้ำพริกกะปิ เอาไปย่างแล้วยำ ผัดกับเต้าเจี้ยวใบโหระพา อบชีส ฯลฯ
  • ปลูกไว้ได้ใช้ประโยชน์ ทั้งกินเป็นอาหาร แถมช่วยต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ร่างกายเสื่อมช้าลงครับ

หมายเหตุ 


  • ทุกเรื่องราวของ vcanfit ท่านสามารถแขร์ได้เลย ไม่มีหวง จะได้เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพสำหรับผู้คนในวงกว้าง ครับ
  • สงสัยเรื่องอาหาร/สุขภาพ อยากได้คำตอบแบบสั้นๆ ง่ายๆ ที่อิงหลักวิชาการ ลองเข้า Google พิมพ์ vcanfit  เว้นวรรค แล้วพิมพ์ คำที่ต้องการหา (เป็นภาษาไทยหรืออังกฤษก็ได้) จากนั้นกด ENTER ครับ









ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น